สาวหายสาบสูญนับปี ร่างทรงสั่งขุดดินบ้านสามีพบเป็นศพ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/386/1930810/czsdbff.jpgสาวหายสาบสูญนับปี ร่างทรงสั่งขุดดินบ้านสามีพบเป็นศพ

    สาวหายสาบสูญนับปี ร่างทรงสั่งขุดดินบ้านสามีพบเป็นศพ

    2016-01-13T21:01:22+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 17.40 น. พ.ต.ท.สำราญ สุขโต พนักงานสอบสวน สภ.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งนายสมศักดิ์ พึ่งเจียม อายุ 47 ปี ว่ามีการขุดพบเจอทรัพย์สินของน้องสาว คือ น.ส.ชมภูนุช อายุ 33 ปี ที่หายตัวไปอย่างไม่ทราบชะตากรรมนานนับปี เชื่อว่าในบริเวณเดียวกันน่าจะมีศพของน้องสาวถูกฝังอยู่ด้วย

    ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว มีพื้นที่และมีรั้วล้อมรอบ พบญาติๆ กำลังยืนรอเจ้าหน้าที่เพื่อพาไปที่จุดที่พบทรัพย์สิน บริเวณใต้ต้นมะม่วงข้างอาคารบ้าน โดยในเบื้องต้น พบว่า มีการขุดดินเป็นหลุมขนาดเล็ก และมีนาฬิกาเหล็กข้อมือ และกำไลเงินอยู่ภายในหลุม ที่นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าเป็นของ น.ส.ชมภูนุช น้องสาวที่หายตัวไป

    ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้หน่วยกู้ภัยทำการขุดดินในบริเวณเดิม เพื่อค้นหาซากศพตามที่นายสมศักดิ์และญาติได้ร้องขอ ผลปรากฏว่า พบเจอหัวกะโหลกและโครงกระดูกอยู่ในสภาพนอนหงาย มีเสื้อและกางเกงปกคลุมร่าง จึงได้ทำการตรวจสอบซากศพ พบว่าที่กระดูกลำคอ มีเศษผ้าสีม่วงผูดมัดไว้อยู่ คาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมด้วยการถูกรัดคอ

    ทั้งนี้ หลังจากมีการขุดพบซากศพ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางม่วง จึงได้มีการไปควบคุมตัวนายเชาว์ อายุ 45 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านคุ้งวารี และเป็นสามีของ น.ส.ชมภูนุช ไปสอบสวนยังโรงพัก เนื่องมีข้อมูลว่า ญาติของ น.ส.ชมภูนุช ได้เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 ว่า น.ส.ชมภูนุชได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า นายเชาว์ น่าจะรู้เห็น

    เนื่องก่อนที่จะหายตัวไป มีผู้ได้ยินเสียงนายเชาว์ และ น.ส.ชมภูนุช มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง แล้วหายตัวไปนาน 2 วัน ก่อนจะกลับมาเข้าให้ปากคำกับตำรวจว่า ทะเลาะกับภรรยาเรื่องหึงหวงจนคนรักหนีตามชายอื่นไป ประกอบกับ ในขณะนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีหลักฐาน และไม่พบร่องรอยหรือพบศพ น.ส.ชมภูนุช จึงยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้

    ด้านนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของ น.ส.ชมภูนุช ได้นำหลักฐานภาพถ่ายของน้องสาว ซึ่งสวมใส่เสื้อแบบเดียวกับจุดที่พบเจอโครงกระดูกมายืนยัน พร้อมกับให้การว่า น.ส.ชมภูนุช มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายผักอยู่ภายในตลาดสดเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ และมีลูกสาวกับสามีเก่า 1 คน

    ส่วนนายเชาว์ผู้เป็นสามี น.ส.ชมภูนุช อดีตเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่แพ้การเลือกตั้งในสมัยต่อมา จึงหันไปประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวนผักชีหาเลี้ยงชีพ ซึ่งในส่วนของนายเชาว์ ทราบว่า เคยมีภรรยาอยู่แล้วถึง 2 คน แต่ก็มาคบและอยู่กินกับน้องสาวฉันท์สามีภรรยากันอย่างเปิดเผยนานกว่า 2 ปี แต่ทั้งคู่ก็มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้งในเรื่องความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย

    นายสมศักดิ์ ยังให้การต่อด้วยว่า หลังจากน้องสาวหายตัวไป ก็ได้ตามสืบ จนทราบจากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับน้องสาวว่า ได้ยินเสียงน้องสาวตนมีปากเสียงทะเลาะกับนายเชาว์ ที่บริเวณหน้าบ้าน โดยมีเสียงของผู้หญิงอีกคนรวมอยู่ด้วย แล้วจากนั้นก็หายตัวไปนานกว่า 1 ปี ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

    จนกระทั่งล่าสุด ตนและญาติพี่น้องคนอื่นๆ ได้ไปหาหมอดูร่างทรงคนหนึ่ง เพื่อพึ่งไสยศาสตร์ให้ช่วยตามหาน้องให้อีกทาง ปรากฏว่าร่างทรงคนนั้นได้บอกว่าน้องสาวถูกฆ่าตาย และถูกฝังทิ้งไว้ที่ข้างบ้านของเจ้าตัว โดยขอให้รีบขุดหาทันที เพราะน้องสาวบ่นว่ามืดและร้อนมาก ตนและญาติจึงได้กลับมาช่วยกันขุดหา จนพบนาฬิกาและกำไลของน้องสาว จึงได้รีบแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบก่อนจะพบโครงกระดูกดังกล่าว ซึ่งยืนยันเลยว่า เป็นศพโครงกระดูกของน้องสาวตนจริง เพราะตามรูปภาพกับชุดแต่งกายที่พบเจอกับศพ เป็นแบบเดียวกัน

    อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นขณะนี้ นายเชาว์ ยังคงให้การปฏิเสธกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่ทราบว่าศพที่พบเป็นศพใคร โดยยังคงยืนยันว่าหลังจากทะเลาะกับภรรยาในเรื่องของความหึงหวง ภรรยาจึงได้หนีตามชายอื่นไป และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะยังคงดำเนินการสอบสวน พร้อมกับนำโครงกระดูกที่พบ ส่งไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง