แม่เศร้าคลอดลูกน้อยเสียชีวิต ชี้ใช้บัตร 30 บาทไม่ต่างกับหมอตำแย

แม่เศร้าคลอดลูกน้อยเสียชีวิต ชี้ใช้บัตร 30 บาทไม่ต่างกับหมอตำแย

แม่เศร้าคลอดลูกน้อยเสียชีวิต ชี้ใช้บัตร 30 บาทไม่ต่างกับหมอตำแย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(8 ม.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความ จากแฟนเพจเฟซบุ๊กคุณแม่ยังสาว ซึ่งได้มีการโพสต์เรื่องราวของคุณแม่ที่ไปรอทำคลอดที่โรงพยาบาลโดยใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค แต่เนื่องจากการทำคลอดที่ช้า ทำให้ลูกที่เพิ่งคลอดออกมานอนห้องไอซียู 2 วัน ก่อนเสียชีวิต โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้

"สวัสดีค่ะคุณแม่ยังสวยทุกท่าน ..... เราคลอดน้องวันที่ 14 ธันวาคม น้องออกมาร้องไห้เสียงดังมาก เราก็ดีใจที่น้องออกมาแข็งแรง น้องหนัก 3,345 กรัมค่ะ แต่พยาบาลบอกน้องหายใจหอบ สำลักขี้เทา น้องอยู่ห้องไอซียู 2 วัน น้องก็เสียค่ะ วินาทีที่เข้าไปเห็นหมอช่วยกันปั๊มหัวใจลูก มันเหมือนใจจะขาด

ตอนนี้เรายังทำใจไม่ได้เลย สงสารลูกมาก ครอบครัวเรารอคอยน้องมาเกือบสิบปี น้องเป็นแก้วตาดวงใจเป็นทุกๆ อย่างของครอบครัวเรา แต่ต้องมาเสียน้องไป เพราะการทำคลอดที่ช้า เรามานอนโรงพยาบาลตั้งแต่เริ่มปวดท้องสามทุ่ม มีเลือดออกแต่น้ำยังไม่เดิน ปากมดลูกเปิดแค่เซ็นเดียว พยาบาลก็ให้เรานอนรอไปเรื่อยๆ จนประมาณตีสองเราปวดท้องถี่มากแล้วก็ปวดเบ่งตลอด เราก็เรียกพยาบาลมาดู เขาบอกปากมดลูกเปิดแค่สองเซ็น

เราเริ่มใจไม่ดีเราทนความเจ็บปวดได้ แต่ลูกเราหล่ะจะเป็นยังไง เพราะเราเบ่งอยู่ตลอดทุกๆ สองสามนาที เราปวดแบบนี้ตั้งแต่ตีสองถึงแปดโมงเช้า จนเราคลอดน้องออกมาเอง เจ็บปวดที่สุดคือตอนน้องมีชีวิตอยู่เราไม่ได้อุ้ม ไม่ได้หอมเลย ได้แต่นั่งมองทั้งน้ำตา หมอเอาตัวน้องมาให้เราอุ้มตอนที่น้องเสียแล้ว

‪#‎การมารอคลอดที่โรงพยาบาลด้วยบัตร30บาทบางแห่งไม่ต่างอะไรกับการคลอดกับหมอตำแยแถวบ้านเลยT__T‬"

ทั้งนี้ ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย บางรายแนะนำให้ฟ้องรพ. โดยสอบถามเพิ่มเติมที่ 1330 สายด่วน สปสช สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อขอรับเงินชดเชยตามมาตรา 41 

ขณะที่บางรายก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ปกติแพทย์จะทำคลอดก็ต่อเมื่อปากมดลูกเปิด 10 ซม. ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแพทย์ว่าจะทำการผ่าคลอดหรือไม่ ส่วนในเคสดังกล่าวสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กน่าจะเป็นเพราะ ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ 

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากแฟนเพจเฟซบุ๊กคุณแม่ยังสาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook