ศาลฎีกายกฟ้อง5ตำรวจอุ้มทนายสมชาย

ศาล ฎีกา ยืน ยกฟ้อง 5 ตำรวจกองปราบ ไม่มีความผิด คดีการหายตัวของ ทนายสมชาย ระบุ พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก
ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก อดีต สว.กอ.รมน.ช่วยราชการกองปราบปราม, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ อดีตพนักงานสอบสวน กองปราบปราม, จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง อดีต ผบ.หมู่งานสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยว, ส.ต.อ.รันดร สิทธิเขต อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการกองปราบปราม และ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน หรือ พ.ต.อ.ชัดชัย เลี่ยมสงวน ผกก.ฝอ.สพ.(อดีตรอง ผกก.3 ป.) เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากกรณีการอุ้มหายตัวไปของ นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายนักสิทธิมนุษยชน เมื่อปี 2547
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 3 ปี และยกฟ้องจำเลยที่ 2 - 5 ส่วนอุทธรณ์ สั่งยกฟ้องจำเลยทั้งหมด แต่ พ.ต.ต.เงิน ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โดยนายประกันอ้างว่าจำเลยที่ 1 หายสาบสูญไป ศาลจึงออกหมายจับ พร้อมสั่งปรับนายประกันเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานบุคคล และพยานเอกสารที่ซึ่งเป็นสำเนาการตรวจสอบสัญญานโทรศัพท์ของจำเลยทั้ง 5 ที่โจทก์นำสืบยังไม่สมบูรณ์ มีข้อพิรุธ ไม่สามารถนำมารับฟังและเป็นข้อพิสูจน์ ว่าจำเลยทั้ง 5 คน กระทำผิดตามข้อกล่าวหาได้ ที่ศาลทอุทธรณ์ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน และนับเป็นการสิ้นสุดคดีอุ้มหาย ทนายสมชาย ที่ยืดเยื้อยาวนาน กว่า 11 ปี