จำเขาได้ไหม? นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ โร่ขอเปลี่ยนชื่อเดิมแล้ว

จำเขาได้ไหม? นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ โร่ขอเปลี่ยนชื่อเดิมแล้ว

จำเขาได้ไหม? นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ โร่ขอเปลี่ยนชื่อเดิมแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มชื่อแปลก นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์ โร่ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อกลับไปเป็นเหมือนเดิม ให้เหตุผลเขียนยาก ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นตามที่ตั้งใจเปลี่ยนนามสกุล

เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์ เนื่องจากมีชื่อที่แปลกประหลาดไม่ซ้ำใคร กลายเป็นที่สงสัยว่าเป็นชื่อ-สกุลจริงหรือไม่ กระทั้งมีหลักฐานออกโดยสำนักงานทะเบียนราษฎร์มายืนยัน ล่าสุด หนุ่มชื่อประหลาดคนดังกล่าว ได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เพราะเขียนยากเกินไป

ตามรายงานระบุว่า นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ ได้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) เพื่อทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อและนามสกุล โดยกลับไปใช้ชื่อและนามสกุลเดิม คือ นายแสน สร้อยสูงเนิน พร้อมกับบัตรประชาชนใหม่

ก่อนที่เมื่อวานนี้ นายสนั่น วรินทราวาท นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ได้เชิญ นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ มาพูดคุยด้วย เจ้าตัวรู้สึกดีใจที่ได้พบนายอำเภอและได้บัตรประชาชนใหม่ ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิมอีกครั้งนั้น เจ้าตัวบอกว่า ชื่อ นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์ นั้น สะกดและเขียนค่อนข้างยาก ไม่สะดวกเท่าใดนัก ทำให้เกิดความลำบากเวลาต้องทำเอกสารต่างๆ

นายอำเภอเมืองสุรินทร์ จึงได้ให้ข้อคิดว่า ชื่อ นายแสน สร้อยสูงเนิน นั้นก็เพราะและมีความหมายดีอยู่แล้ว อาจจะเป็น แสนสุข แสนดี หรือ แสนสำราญ อีกทั้งยังเป็นชื่อที่บุพการีตั้งให้แต่เกิด ทำให้ นายแสน รู้สึกพึงพอใจกับชื่อเดิมของตัว ก่อนจะลากลับบ้านไป

สำหรับการเปลี่ยนชื่อประหลาดเป็น นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์ นั้น ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเห็นว่าผ่านข้อบัญญัติต่างๆ ตาม พ.ร.บ.ชื่อบุคคล พ.ศ. 2505 มาตรา 6 อีกทั้งเจ้าตัวยังยืนยันว่าเป็นชื่อที่ความหมายดี แม้จะเป็นชื่อที่ถอดรูปมาจากภาษาอังกฤษ เจ้าหน้าที่ก็ทักทวงแต่ผู้ยื่นเรื่องไม่ขัดข้องใดๆ เพื่อความสิริมงคลของตัวเอง และอยากให้มีชีวิตดีขึ้นตามชื่อนามสกุล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook