นาทีต้องยอม "แพร์ พิชชาภา" (ลูกหยี) นางร้ายสุดสตรอง

นาทีต้องยอม "แพร์ พิชชาภา" (ลูกหยี) นางร้ายสุดสตรอง

นาทีต้องยอม "แพร์ พิชชาภา" (ลูกหยี) นางร้ายสุดสตรอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกวันพุธและพฤหัสบดีหากเปิดทีวีชมละคร "ไฟล้างไฟ" ทางช่องสามแน่นอนว่าบทบาทของ "ลูกหยี" ที่เป็นคู่ปรับกับนางเอกนั้นไม่มีใครจดจำเธอไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะด้วยบทบาทแบบที่เธอต้องฟาดฟันกับนางเอก "แมท ภีรณีย์"นั้นจึงทำให้เป็นที่กล่าวถึงอย่างล้นหลามในโลกโซเชียลถึงขั้นมีการติดแฮชแท็ก #ทีมลีลา #ทีมลูกหยี #ไฟล้างไฟ และอีกมากมายจนกลายเป็นละครสุดตรองที่ครองใจแฟนๆ ละคร

และแน่นอนว่าอะไรที่ว่าฮอตอะไรที่ว่าแรงทีมข่าว Sanook! News ไม่พลาดแน่นอนที่จะเกาะกระแสคว้าตัวมาพูดคุยและสัปดาห์นี้ก็เป็นคิวของนางร้ายของละครไฟล้างไฟ "แพร์ พิชชาภา" นักแสดงดาวรุ่งที่ก่อนหน้าที่เคยผ่านการแสดงกับบทบาทน่ารักใสใส "หนูปึก" และพัฒนาฝีมือการแสดงจนได้ขึ้นแท่นมาเป็น "นางร้ายสุดตรอง" ที่นาทีแฟนๆ ละครต้องยอมให้เธอจริงๆ

นางร้ายน้องใหม่ฝีมือร้ายกาจ

หลังจากที่ละคร "ไฟล้างไฟ" เปิดฉากออนแอร์เพียงวันแรกก็กลายเป็นละครดังที่ถูกนำมาพูดถึงโดยเฉพาะบทของ "ลูกหยี" ที่ความร้ายกาจของเธอนั้นโดดเด่นเข้าตาบางกระแสก็ชื่นชมว่าเป็นน้องร้ายน้องใหม่ที่ฝีมือการแสดงจัดว่าไม่ธรรมดาหลังจากบทน่ารักใสๆ และก่อนหน้านี้ก็ขยับมารับบทร้ายเก็บกดในละคร "ภพรัก" และในที่สุดก็มาสู่บทร้ายที่แซ่บและเผ็ดยิ่งกว่าพริกสิบเม็ดในไฟล้างไฟ โดยสาวแพร์บอกกับเราว่าบทบาทลูกหยีเป็นบทที่เธอประหม่าและมาพร้อมความกดดันแต่นั้นก็คือแรงพลักดันให้เธอมีแรงฮึดที่จะใช้โอกาสที่ได้จากตรงนี้เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในการทำงาน

"ยอมรับค่ะว่าตอนแรกแพร์จะมีปัญหาเหมือนกันคือจะไม่เข้าใจบทว่าตัวละครนี้ถึงคิดแบบสุดโต่ง ผู้กำกับก็เลยให้ไปเวิร์คช้อปให้แพร์เข้าใจกับตัวละครและทำให้แพร์เข้าใจตัวละครมากขึ้นและด้วยการที่พี่ๆ นักแสดงเล่นส่งอารมณ์กันมาเต็มๆ เราเองก็จะดร็อปไม่ได้และแพร์ก็ไม่อยากให้ตัวเองเป็นคนถ่วงเวลาคนอื่น ซึ่งมันก็กดดันแต่ความกดดันตรงนี้แหละทำให้แพร์ต้องพัฒนาตัวเองก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ใหญ่มอบบทนี้ให้ซึ่งเขาก็อาจจะมองเห็นอะไรในตัวของแพร์นั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องพยายามให้เต็มที่ขึ้นไป"

และเธอยังเสริมต่ออีกว่าการทำงานที่ตั้งใจและพยายามทำงานอย่างเต็มที่กับละครเรื่องนี้และผลออกมาเกินคลาดนั้นกับคำที่นักแสดงชอบบอกว่าหายเหนื่อยนั้นคือความจริง "ละครเรื่องนี้แพร์ตั้งใจมากๆ เพราะเป็นละครที่ยากที่สุดตั้งแต่เล่นมาและแอบคิดว่าผลออกมามันจะเป็นอย่างไรแต่ก็ไม่ถึงกับว่าคาดหวังคนจะชอบ แต่อยากมีฟีดแบ็คการที่เราตั้งใจทำงานหลายๆ เดือนมันออกมาเป็นอย่างไรแต่พอออกมาทุกคนเห็นความตั้งใจของเราเห็นความตั้งใจของทีมงาน โปรดักส์ชั่นเรื่องนี้ การแสดงของนักแสดง รวมถึงตัวเราด้วยที่ได้รับมาก็รู้สึกว่าหายเหนื่อยจริงๆ จากตอนแรกๆ ก็มีท้อเพราะบทมันยากเคยท้อถึงว่าจะไหวมั้ยเนี่ยเราจะเอาไม่อยู่แน่ๆ"

ไฟล้างไฟลุกลามสะเทือนโลกโซเชียล

ต้องยอมรับว่าละครไฟล้างไฟนั้นเป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลไม่น้อยกับการนำไปตั้งกระทู้ในเว็บดังพูดถึงความแซ่บของละครชนิดที่ว่ามีการตั้งแฮชแท็กแบ่งทีมซึ่งสาวแพร์เปิดเผยถึงประเด็นนี้กับเราว่าส่วนตัวนั้นรู้สึกปลื้มใจและก็ได้เห็นกระแสในโลกโซเชียลและรู้สึกว่าบทละครเรื่องนี้มีความสนุกตั้งแต่อ่านบทตอนที่หนึ่งและตอนสุดท้าย

"ความรู้สึกหลังจากที่ฟีคแบ็คมันออกมาดีแบบนี้มันก็ตามมาด้วยความดีใจมากๆ และดีใจกับพี่ๆ ทุกคนเลยที่ผลที่ทุกคนตั้งใจแล้วมันออกมาได้โอเคขนาดนี้ ส่วนตัวแพร์ก็ดีใจนะคะที่ทุกคนที่ชมละครแล้วเห็นความตั้งใจเห็นบทบาทของตัวละครนี้จริงๆ คือจะบอกว่าคนดูละครเดี๋ยวนี้เขาไม่ได้นั่งดูละครแค่สวยหรือไม่สวย เขาดูทุกอย่างทั้งเมคอัพ แสง ฉาก โปรดักส์ชั่น ความเป็นมาของเรื่องราว ก็เลยดีใจที่ทุกคนบอกว่าเรื่องนี้ที่แพร์เล่นมีความเป็นมนุษย์ มีความเรียลอยู่และเห็นถึงเรื่องราวของทุกตัวละครและลูกหยีที่แพร์เล่นด้วยค่ะมันก็ดีใจจริงๆ ต้องพูดว่าดีใจเป็นล้านรอบเลย"

ลูกหยีเปลี่ยนชีวิตแต่ก็ไม่ยึดติดกับบทร้าย

กับบทบาทของ "ลูกหยี" นั้นสาวแพร์เล่าว่าทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปเพราะนอกจากจะมีคนรู้จักมากขึ้นแล้วนั้นยังมีการทักและพูดถึงเรื่องฝีมือการแสดงของเธอที่มีการเลี่ยนแปลงไม่เหมือนเรื่องก่อนๆ ที่เคยรับบทบาทโก๊ะๆ ที่จะมีเสียงชมไปในแนวทางน่ารักสดใส แต่บทลูกหยีนั้นการแสดงพัฒนาจนเห็นได้ชัดมากและถึงแม้บทร้ายจะเปลี่ยนชีวิตเธอให้กลายเป็นที่รู้จักแล้วนั้นแต่เธอก็ไม่ยึดติดเพราะบทต่างๆ ที่ได้มาคือโอกาสจากผู้ใหญ่

"ลูกหยีจะมีคนทักค่ะเรื่องฝีมือการแสดงและก็ติชมซึ่งส่วนตัวแพร์นั้นรู้สึกว่ามันเป็นส่วนที่สำคัญของนักแสดงที่ควรจะเอาปรับปรุงและเป็นกำลังใจในการทำงานของเราต่อไป ส่วนการจะเล่นแต่ร้ายนั้นแพร์ไม่ได้เป็นคนเลือกเองมันขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่เป็นคนส่งมาให้เรา และส่วนตัวก็เล่นได้ทุกบทและรู้สึกว่าการที่เราได้มีโอกาสเป็นนักแสดงเป็นโอกาสที่หลายๆ คนอยากเป็นและหลายๆ คนอยากเข้ามาทำและสมมติว่าเราคิดจะติดภาพว่าเราจะเป็นแต่นางร้ายหรือนางเอกถ้าทุกคนคิดแบบนี้และใครล่ะที่จะเล่นได้ทุกบทล่ะ แต่สำหรับแพร์ได้ทุกบทบาทและจะทำให้เต็มที่"

เส้นทางชีวิตสู่นางร้ายสุดสตรอง

หากย้อนเส้นทางก่อนโด่งดังเป็นที่รู้จักนั้นสาวแพร์เล่าว่าเธอมาจากจุดเริ่มต้นนั้นก็เป็นเด็กที่อยู่ในโมเดลลิ่งสเตลล่าและได้มีโอกาสแคสงานโฆษณามาบ้าง จากนั้นก็ได้เข้ามาแคสกับช่องสามจึงทำให้เธอก้าวสู่การเป็นนักแสดงเต็มตัว

"เรื่องแรกเลยผลงานละครของแพร์คือผู้ดีอีสานซึ่งต้องบอกว่าค่อนข้างโชคดีที่หลังจากแคสแล้วก็ได้งานเลยแต่หลังจาก "ละครผู้ดีอีสาน" แพร์ก็หายไปปีนึงเลย และทางค่ายยูม่าก็ติดต่อมาให้เล่นสวยร้ายสายลับและต่อด้วยละครภพรักและก็มาเรื่องไฟล้างไฟที่เป็นเรื่องที่สี่ค่ะ และรู้สึกว่าพอได้ทำงานตรงนี้มาเรื่อยๆ ก็รักงานนี้รู้สึกว่ามันใช่แต่ก็ยังรู้สึกว่าเหมือนเรายังเป็นเด็กตลอดเวลาเพราะว่าต่อให้มีเด็กใหม่กว่าเราเข้ามา เราก็รู้สึกว่าเราเข้ามาพร้อมเขาเพราะการที่เราเปลี่ยนไปแต่ละเรื่องมันไม่เหมือนกันเพราะมันมีอะไรให้เราศึกษาตลอดที่มันเป็นการท้าทายที่ดีค่ะ"

แพร์ พิชชาภา ผู้หญิงกลางๆ

ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากสาวแพร์แจ้งเกิดกลายเป็นคนดังแล้วนั้นคงจะมีไม่น้อยที่หลายๆ คนอยากจะรู้จักถึงตัวตนของเธอคนนี้โดยเธอบอกว่าตัวตนของเธอนั้นเติบโตมาจากครอบครัวที่มีคุณแม่เป็นคุณครูและพี่สาวส่วนคุณพ่อนั้นได้เสียไปแล้วและจะเป็นเด็กที่ซุกซนทั่วไปชอบทำกิจกรรมที่จะไปในทางใช้อยู่เบื้องหลังมากกว่าออกไปข้างหน้าเพราะค่อนข้างไม่ค่อยมีความมั่นใจในการแสดงแต่การมีคุณแม่เป็นครูก็ต้องอยู่ในกรอบเช่นกัน

"ด้วยการที่คุณแม่เป็นคุณครูสอนเด็ก ป.1 ก็ชอบเด็กที่แบบเชื่อฟังว่านอนสอนง่ายและจะออกแนวห้ามโน่นห้ามนี้แนวเป็นห่วงมากกว่า แต่แพร์ก็จะแอบมีซนบ้างตามประสาเด็กๆ และเรียนโรงเรียนที่แม่สอนด้วยเวลาจะซนก็ไม่ได้มากเดี๋ยวเจอฟ้องแม่ อยู่กับเพื่อนๆ ก็ไม่ใช่แนวหัวหน้ากลุ่มจะเป็นแนวเสริมแต่ก็ไม่ถึงกับเรียบร้อย ตัวเองจะเป็นคนที่แนวกลางๆ และแพร์จะเป็นคนที่เวลาอยู่กับเพื่อนๆ จะค่อนข้างเฮฮาบ้าบอ

แต่ถ้าใช้ชีวิตอยู่กับคนทั่วไปรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างนั้นจะค่อนข้างนิ่งๆ เฉยๆ เพราะไม่อยากพูดเยอะเพราะจะโลกส่วนตัวสูงถ้าไม่สนิทจริงก็ไม่อยากเปิดเผยอะไรเยอะจะระวังตัวเพราะก่อนหน้านี้เจอคนมาหลายแบบแล้วรู้สึกว่าการที่จริงใจแบบเปิดเผยเกินไปมันก็ไม่ได้เป็นผลดีกับเราเสมอไปเพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับเรา เราพูดอะไรออกไปคนอื่นจะคิดกับเรายังไงส่วนถ้าใครจะเข้ามาคุยแพร์ก็คุยได้แต่ถ้ายังไม่สนิทกันก็คงไม่ได้โอเพ่นมากค่ะ"

แง้มหัวใจนางร้ายใครกันครองใจเธอ

และเชื่อว่าคำถามที่หากเราไม่ถามก็คงจะพลาดอย่างแรงโดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่นาทีนี้คงกำลังเฝ้ารอคำตอบกันแล้วว่า สวย น่ารัก ตัวเล็ก สเปคพี่ อย่างสาวแพร์นั้นเธอมีเจ้าของหัวใจหรือยัง งานนี้เธอบอกกับเราพร้อมออกอาการเขินหน้าแดงเล็กๆ

"ก็มีคนคุยๆ อยู่ค่ะคนนึงเป็นคนนอกวงการก็เป็นเพื่อนๆ สนิทกันมาแต่ยังไม่ได้เป็นแฟน และก็เป็นคนที่ชอบคุยหรือศึกษาใครก็คุยทีละคนค่ะไม่เจ้าชู้และชัดเจนกับทุกๆ เรื่อง และเขาก็เป็นคนที่คุยกับแพร์ได้ทุกเรื่องเช่นกันด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาด้วยตั้งแต่แรกไม่ได้เข้ามาแบบโจ่งแจ้งมันก็เลยสบายใจที่จะคุยกันและก็ปรึกษาอะไรได้เยอะค่ะ"

และนี่ก็เป็นการพูดคุยทำความรู้จักนางร้ายสุดสตรองที่ตอนนี้อนาคตในวงการของเธอนั้นกำลังสวยสดใสและต้องจับตาดูกันต่อไปสำหรับเธอคนนี้จะพัฒนาฝีมือการแสดงไปถึงจุดไหน แต่ที่แน่ๆ นาทีนี้บท "ลูกหยี" ที่เธอแสดงออกมาได้ตรึงตาตรึงใจคนดูไปแล้วจริงๆ

ขอบคุณภาพ : Sinsamoot

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ นาทีต้องยอม "แพร์ พิชชาภา" (ลูกหยี) นางร้ายสุดสตรอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook