ราชทัณฑ์แถลงปรากรมผตห.คดีม.112ใช้เสื้อผูกคอตายคาคุก

กรมราชทัณฑ์ แถลงข่าว ข.ช.ปรากรม ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ใช้เสื้อผูกคอตายคาเรือนจำ - ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ ครอบครัวติดต่อขอรับศพ ที่ รพ.ตร. ด้าน ผบ.ตร. สั่งสรุป คดีม.112 ใน 3 สัปดาห์ จ่อหมายจับอีก

กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2558 เวลาประมาณ 22.00 น. จากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯว่า ข.ช.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องขังระหว่างสอบสวนในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งได้รับตัวไว้ควบคุมตามหมายขังของศาลทหารกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2558 ได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการใช้ผ้าจากเสื้อผู้ต้องขังที่ทางเรือนจำจ่ายให้ตามระเบียบผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขังภายในเรือนจำชั่วคราว โดยเวรรักษาการณ์กลางคืนในวันดังกล่าวได้ตรวจพบ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและเปิดห้องขังเข้าไปให้การช่วยเหลือในทันที 

เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องขังยังไม่เสียชีวิต จึงได้พยายามใช้เครื่องช่วยหายใจและให้การปฐมพยาบาล พร้อมนำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในทันที จนกระทั่งนำตัวส่งถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และได้รับแจ้งจากแพทย์ในเวลาต่อมาว่า ผู้ต้องขังได้เสียชีวิตแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีดังนี้

1. ห้องขังที่เรือนจำชั่วคราว ไม่ใช่ห้องขังเหมือนเรือนจำปกติทั่วไป แต่ใช้อาคารที่ทำการของหน่วยทหาร ซึ่งมีประตูทึบผนังปูน 4 ด้าน ไม่สามารถมองตรวจตราจากภายนอกได้ ต้องเปิดประตูจึงจะมองเห็น ภายในห้องขังมีเครื่องหลับนอนผู้ต้องขัง ใช้ระบบขังเดี่ยว ผู้ต้องขังทั้งหมดไม่มีโอกาสพบกัน

2. การควบคุมผู้ต้องขังเวลากลางคืนจะมีเวรผลัดละ 1 คน คอยเดินตรวจตรา ซึ่งขณะนี้ เรือนจำชั่วคราวมีผู้ต้องขังรวม 5 คน ประกอบกับเป็นวันหยุดราชการ ไม่มีการสอบสวน ผู้ต้องขังถูกขังห้องเพียงลำพัง ไม่มีโอกาสพบคู่คดี จะมีการเดินตรวจเป็นระยะเท่านั้น

3. คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ผู้ต้องขังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อาจมีปัญหาในการปรับตัว เพราะเพิ่งรับตัวไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม การเสียชีวิตของผู้ต้องขังในครั้งนี้ เป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน จึงต้องดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งศพให้สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป

ผบ.ตร.สั่งสรุปคดีม.112ใน3สัปดาห์-จ่อหมายจับอีก

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ให้เร่งสรุปสำนวนคดีให้เสร็จภายใน 2 - 3 สัปดาห์ โดยคดีดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 สำนวน คือ คดีการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และคดีลักทรัพย์ แต่จะเร่งสรุปสำนวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงก่อน ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% 

นอกจากนี้ จะเร่งทำการอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซึ่งจากการตรวจค้นคอนโดมิเนียมของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีตสารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. หนึ่งในผู้ต้องหา พบทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และเบื้องต้นยังพบทรัพย์สินของอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่ให้ช่วยราชการก่อนหน้านี้ ขณะนี้ยังไม่พบความผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งหลังจากนี้เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้สอบสวนเอง

นอกจากนี้ ได้ส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 แล้ว อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้อีกครั้ง ในช่วงบ่ายวันที่ 29 ตุลาคม นี้ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ครอบครัวปรากรมติดต่อขอรับศพ ที่ รพ.ตร.

ความเคลื่อนไหวที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ จากกรณีที่ กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ว่า เมื่อเวลา 22.00 น. พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องขังคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายภายในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ ครอบครัว ของ พ.ต.ต.ปรากรม ได้เดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับศพกับเจ้าหน้าที่นิติเวช แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ พร้อมระบุว่า หากมีการส่งศพ พ.ต.ต.ปรากรม มาชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจจริงนั้น ศพจะเคลื่อนย้ายมาถึงที่เร็วสุด เวลา 21.00 น. ของวันนี้ และช้าสุด คาดว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ 

อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของ พ.ต.ต.ปรากรม ขอไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชน เนื่องจากยังอยู่ในอาการเสียใจ