คุก1ปีปราโมทย์หมิ่นทักษิณรออาญา2ปี-ยกฟ้องคดีสนธิ

ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 1 ปี รออาญา 2 ปี ปรับ 1 แสนบาท 'ปราโมทย์ นาครทรรพ' หมิ่นประมาท 'ทักษิณ' กล่าวหา เรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ ขณะที่ ยกฟ้อง 'สนธิ ลิ้มทองกุล' ชี้ เป็นการติชมโดยสุจริต
ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาใน คดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ, บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ ผู้บริหารแผน, นายขุนทอง ลอเสรีวานิช และนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ ที่ 5 เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา, ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา
จากกรณี เมื่อระหว่างวันที่ 17 - 25 พ.ค. 2549 จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างวาระ โดยได้ร่วมกันตีพิมพ์และเผยแพร่โฆษณาบทความ "ยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ : แผนการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย ?" ของจำเลยที่ 1 ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ โดยใส่ร้ายโจทก์ที่ 1 และ 2 ให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความที่จำเลยที่ 1 เขียนบทความเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ รวม 5 ตอน ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และเผยแพร่ในเว็บไซต์
โดยคดีนี้จำเลยที่ 1 ยื่นฎีกา ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นทุกข้อ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกา เห็นพ้องด้วย พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา สั่งจำคุก เป็นเวลา 1 ปี ปรับเงิน 100,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญาไว้ 2 ปี และ ให้จำเลยพิมพ์คำพิพากษาฉบับย่อลงในหนังสือพิมพ์รายวัน 5 ฉบับ เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
ศาลฎีกายกฟ้องสนธิหมิ่นทักษิณหมกมุ่นไสยศาสตร์
ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2549 นายสนธิ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ พาดพิงถึง นายทักษิณ ในทำนอง ว่า โจทก์หมกมุ่นเรื่องไสยศาสตร์
วันนี้ นายสนธิ และนายขุนทอง เดินทางมาศาล ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยหมิ่นประมาทเรื่องหมกมุ่นทางไสยศาสตร์ อย่างไร ขณะที่ จำเลยที่ 1 ฎีกา ว่า โจทก์มีพฤติกรรมเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์ ทั้งการทำพิธีบวงสรวงพระพรหม ที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการทำบุญที่วัดพระแก้ว ศาลเห็นว่า โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมวิพากษ์วิจารณ์ได้ อีกทั้งคำปราศรัยของจำเลย เป็นการติชมโดยสุจริต ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกา ไม่เห็นพ้องด้วยพิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ส่วนคำพิพากษาอื่นให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์