พม.กำชับแผนแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ภูทับเบิก
รมว.พม. กำชับ พส. บูรณาการแผนแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ภูทับเบิก เร่งช่วยเหลือคนเร่ร่อน คนไร้บ้าน อย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กรณีการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ นั้น ตนได้กำชับให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จัดทำแผนการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย และกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยต้องเตรียมแผนการรองรับผลกระทบและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ตนยังได้กำชับให้ พส. ขับเคลื่อนและดำเนินการเกี่ยวกับคนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ โดยต้องบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รับข้อเสนอต่างๆ จากกลุ่มคนดังกล่าว ในงาน "วันผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะโลก" (World Homeless Day) ประจำปี 2558 ซึ่งได้เรียกร้องในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความต้องการที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
จากการที่ตนได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือคนพิการผู้ประสบปัญหาสังคมต่างๆ จากการประชุม ศปก.พม. กรณีเด็กชายอายุ 7 ปี มีความผิดปกติที่อวัยวะเพศ และพิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ อาศัยอยู่กับปู่ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ที่จังหวัดอ่างทอง นั้น ล่าสุดได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือกรณีดังกล่าว โดยได้มอบเงินสงเคราะห์และอำนวยความสะดวกด้านรถรับ-ส่งไปโรงพยาบาลตามแพทย์นัด รวมทั้งขึ้นทะเบียนบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าคนพิการ และประสานศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอ่างทอง เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาของเด็กต่อไป
และกรณีครอบครัวพี่น้อง 3 คน ประกอบด้วย พี่ชายตนโต อายุ 83 ปี พิการตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง น้องสาวคนรอง อายุ 79 ปี มีสายตาฝ้าฟาง และน้องสาวอีกคน อายุ 75 ปี ป่วยด้วยอาการกระดูกหลังร้าวเดินไม่ค่อยได้ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านไม้สภาพบ้านเก่าผุพังมากจนไม่สามารถบังแดดบังฝนได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดสุรินทร์ นั้น เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือกรณีดังกล่าว โดยเงินสงเคราะห์ครอบครัว และปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในระยะยาวต่อไป