หรือความหมายของ เดือนตุลา กำลังจะเลือนหาย.?

หรือความหมายของ เดือนตุลา กำลังจะเลือนหาย.?

หรือความหมายของ เดือนตุลา กำลังจะเลือนหาย.?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เดือนตุลาคมของทุกปี นับตั้งแต่เหตุการณ์ใหญ่เมื่อกว่า 40 ปีที่ผ่านมา จากการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของขบวนการนักศึกษา ประชาชน 14 ตุลาคม 2516 เป็นเดือนที่มีความหมายต่อ คนจำนวนมาก เป็นเดือนแห่งความทรงจำของคนร่วมยุคสมัย หรือ แม้กระทั้งคนรุ่นหลังที่ใฝ่รู้

เชื่อได้ว่า ความรู้สึกร่วมของคนที่รักในประชาธิปไตยและร่วมต่อสู้ ในเหตุการณ์ครั้งสำคัญนั้น ไม่อาจลืมเลือนเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองครั้งสำคัญนั้นได้อย่างเด็ดขาด การให้ความสำคัญของเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ถูกออกแบบเพื่อตอกย้ำความหมาย ความสำคัญของเหตุการณ์ โดยการจัดงานรำลึกถึงเหตุการณ์ มาตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อปี 2517 หลังเหตุการณ์ใหญ่ และทุกครั้งที่จัดงานรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น

มาวันนี้ เหตุการณ์เดือนแห่งประวัติศาสตร์ เดือนตุลาคม มีความหมาย สร้างความรับรู้ให้กับสังคมโดยรวมเป็นอย่างไร..? คนรุ่นใหม่ หรือ คนอายุ 40 ปี ลงมา มีมากน้อยเพียงใดที่รับรู้และเข้าใจความหมาย ความยิ่งใหญ่ของการต่อสู้ของขบวนการประชาธิปไตยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย

เราเพิ่งผ่านวันที่ 6 ตุลาคม มาเพียงไม่กี่วัน ทราบหรือไม่ว่า เมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่ต้องสรุปบทเรียนอันโหดร้ายอย่างไร...?

สำหรับคนรุ่นใหม่ หรือ คนที่สนใจเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมือง สนใจขบวนการประชาธิปไตยในไทย มีหนังสือ มีงานเขียนที่บันทึก จากคนเดือนตุลาโดยตรงอยู่มากมาย มีงานเขียนบทวิเคราะห์เหตุการณ์มากมายให้ศึกษา

แต่อย่างจะสรุปเหตุการณ์สั้นๆของ 2 เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ต่างวาระแต่เป็นเรื่องราวเดียวกัน เพื่อให้ผู้สนใจศึกษาค้นคว้าต่อไป ....

14 ตุลา 2516 คือเหตุการณ์ การลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยโดยขบวนการนักศึกษา ประชาชนจำนวนมากเป็นเรือนแสน จนสามารถขับไล่รัฐบาลเผด็จการอำนาจนิยม ลงจากอำนาจ เปิดโอกาสให้มีการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อนำมาใช้ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ครั้งสำคัญ

เพราะก่อนหน้านั้นประเทศไทยถูกปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยม โดยรัฐบาลทหารไม่ใช้รัฐธรรมนูญในการกำหนดกรอบการบริหารบ้านเมืองตามวิถีระบอบประชาธิปไตย

การล้มรัฐบาลทหารโดยการชุมนุมอย่างสงบ เปลี่ยนแปลงการบริหารบ้านเมือง ตามวิถีแห่งประชาธิปไตยในช่วงนั้น เป็นการเปิดมิติของการมีส่วนร่วมในการกำหนดการปกครอง เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ก่อนที่จะถูก กำราบ ปราบปรามลงด้วยความโหดร้าย อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีการปลุกระดมสร้างความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน มีการใช้อาวุธทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ทำลายการต่อสู้การแสดงออกทางการเมืองตามวิถีแห่งประชาธิปไตยด้วยสันติวิธีลงในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ด้วยการล้อมปราบนักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านการกลับเข้าประเทศของอดีตผู้นำรัฐบาลทหาร ที่ถูกขับไล่จากการชุมนุม 14 ตุลาคม 2516

การลงมือทำลายทำร้าย นักศึกษาประชาชนในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิด ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นระยะเวลายาวนาน คนหนุ่มสาวผู้รักประชาธิปไตย เดินทางเข้าป่าไพรร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ จับปืนขึ้นต่อสู้ทำให้ความรุนแรงกินเวลาหลายปี จนกระทั้งมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของผู้นำรัฐบาล ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวที่เห็นต่างกลับเข้ามาโดยไม่เอาผิด จนในที่สุดการต่อสู้เพื่อแย่งอำนาจรัฐด้วยอาวุธได้อ่อนแรงและล้มหายไปในที่สุด

ปัจจุบัน เราผ่านเหตุการณ์เดือน 6 ตุลาคม มาแล้ว 39 ปี กำลังจะผ่านเหตุการณ 14 ตุลาคม 42 ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สิ่งที่สำคัญ คือ เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่สำคัญครั้งนั้น ถูกจดจำถูกบันทึก ให้กับคนรุ่นใหม่คนรุ่นหลังอย่างไร ? ก่อนหน้านี้หลายปีที่ผ่านมา มีความพยายามให้นำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกประวัติศาสตร์ สำคัญที่คนรุ่นใหม่สามารถรับรู้ผ่านบทเรียน ในหลักสูตรการศึกษา

แต่ปัจจุบัน ก็ดูเหมือน ความเข้าใจ ความสำคัญของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์กำลังเลือนรางในความรับรู้ของคนรุ่นใหม่เต็มที ดูเหมือนเป็นความจงใจที่น่าเสียดายยิ่ง ที่เหตุการณ์สำคัญ ของ เดือนตุลา กำลังเลือนราง ในความรับรู้ของสังคมไทย หรือ บทเรียนของประชาธิปไตยไทย กำลังจะหายไปจากความทรงจำของคนไทย..?

(ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.14tula.com)

โดย...เปลวไฟน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook