ประวิตรย้ำศมบ.แก้ปัญหาพาปท.สงบ

'พล.อ.ประวิตร' ย้ำ ศมบ. แก้ปัญหาด้านความมั่นคงต้องบูรณาการร่วมกัน นำพาประเทศสงบสุข พร้อมขอบคุณ ขรก.ศมบ. ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ (ศมบ.) ว่า การแก้ปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จำเป็นต้องบูรณาการและแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เป็นห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของประเทศไทย การขับเคลื่อนเดินหน้าปฏิรูปประเทศที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงต้องเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เช่น การล่วงละเมิดสถาบัน สถานการณ์ยาเสพติด แรงงานต่างด้าวและการทำประมงผิดกฎหมาย การอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ การจัดระเบียบสังคม การแก้ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สถานการณ์ภัยแล้งและอุทกภัย การทำความเข้าใจกับกลุ่มที่เห็นต่างและกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและ คสช. การบ่อนทำลายชาติด้วยก่อเหตุระเบิดในสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและประเทศไทยในสายตาต่างชาติ

ทั้งนี้ ศมบ. ได้ใช้กลไกการทำงานร่วมกัน ประสานงานขับเคลื่อนกับทุกส่วนราชการในการคลี่คลายและแก้ปัญหาที่สำคัญต่าง ๆ ของชาติเป็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมที่ผ่านมา จนสามารถนำพาความสงบสุข ความมั่นคงมาสู่สังคมและประเทศชาติอย่างเห็นได้ชัด

พล.ต.คงชีพ ยังเปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณข้าราชการทุกส่วนในที่ประชุมศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ (ศมบ.) ที่มุ่งมั่น ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความอดทน ในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับประชาชนในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาความมั่นคงไปด้วยกัน พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานในปี 2559 ที่สำคัญ อาทิ การปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ขอให้ทุกหน่วยดำเนินการให้เต็มกำลังสุดความสามารถโดยร่วมกับภาคประชาชน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการจัดระเบียบต่าง ๆ ในสังคม ขอให้หน่วยถือเป็นความเร่งด่วนลำดับแรกที่ต้องรีบปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตปรกติสุข อย่างมั่นคง และปลอดภัย

ทั้งนี้ มาตรการป้องกันเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง จึงขอให้ดำรงการปฏิบัติงานด้านการข่าวร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวังจากภาคประชาชนอยู่ตลอดเวลา โดยติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์การข่าวให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนสำคัญในมาตรการป้องกัน พร้อมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและดำเนินงานตามนโยบายให้ได้ในทุกมิติ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายตามโรดแมปที่รัฐบาลวางเอาไว้