จักรทิพย์สอบฝักแคทำบึ้มคล้าย3จว.ใต้-ประวิตรลุยล่าอ๊อด

'พล.ต.อ.จักรทิพย์' เผย หลังรับตำแหน่ง ผบ.ตร. ยังดูแลสอบสวนคดีระเบิด เร่งติดตามคนที่หลบหนี ลุยสอบฝักแคใช้ทำระเบิดคล้าย 3 จว.ใต้ ขณะที่ ''ประวิตร'' ลุยล่า ''อ๊อด'' โยงบึ้ม สั่งหาชาย ตปท. แบกเป้ขึ้นศาลทหาร ด้าน ทนายพบ 'อาเดม' ถามเหตุรับสารภาพบึ้ม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้า ในการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร กลับมาดำเนินคดี ว่า ยังมีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตรงไปตรงมา และยังคงใช้ชุดทำงานคลี่คลายคดีชุดเดิม รวมทั้ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ที่จะมารับตำแหน่งใหม่ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้ดูแลสำนวนการสอบสวนเช่นเดิน ขณะเดียวกันจะต้องมีการตรวจสอบวิธีการประกอบระเบิด หรือ ฝักแค ที่มีลักษณะเฉพาะของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากการประกอบระเบิดมีขึ้นในหม้อแกงแขก ซึ่งตามประสบการณ์แล้วยังไม่เคยพบในประเทศไทยมาก่อน และจากการตรวจสอบพบว่า คล้ายการจุดระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาไม่ใช่แค่ นายอ๊อด พยุงวงศ์, น.ส.วรรณา สวนสัน หรือ นายซูแบร์ แต่จะติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้ และหากพบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้อง ก็จะมีการอนุมัติขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์  ยอมรับว่าตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง ดังนั้น จึงจะทำหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดีที่สุด

'ประวิตร' ลุยล่า 'อ๊อด'โยงบึ้ม สั่งหาชายตปท.แบกเป้ขึ้นศาลทหาร

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการจับกุมตัวผู้ต้องหาเหตุระเบิดราชประสงค์ ขณะนี้สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 2 คน แต่ยังเหลืออีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถจับได้ ส่วน นายยงยุทธ พบแก้ว หรือ นายอ๊อด ตัวการสำคัญนั้น ยังไม่สามารถจับได้เช่นกัน เนื่องจากจะต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน ส่วนการจับผู้ต้องหาเหตุวางระเบิดก่อนหน้านี้นั้น มีความชัดเจนทางหลักฐานอยู่แล้วและจะฟ้องใครเพิ่มเติม ก็จะต้องดูพยานและหลักฐานทั้งหมด หากสามารถฟ้องได้ ก็จะส่งฟ้องทันที

ส่วนกรณีที่มีชายชาวต่างชาติที่มีพิรุธ สะพายกระเป๋าขึ้นศาลทหาร นั้น ขณะนี้กำลังติดตามตัวมาสอบอยู่ เนื่องจากปกติแล้วจะไม่มีใครเข้าไป นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ ปลัดกระทรวงกลาโหม เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเชื่อว่า ช่วงเปลี่ยนผ่าน ข้าราชการหลายตำแหน่งเกษียณและโยกย้ายนี้ ข้าราชการและประชาชนเข้าใจ ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินสายทำความเข้าใจแล้วว่า ประเทศอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านตามโรดแมป ให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ จนกว่าจะถึงกลางปี 2560 ที่จะมีการเลือกตั้ง

ทนายเข้าพบอาเดมวันนี้ถามเหตุรับสารภาพบึ้ม

นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาล เติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหา เป็นคนวางระเบิดศาลพระพรหม เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในวันนี้ (30 ก.ย.) เวลา 08.30 น. หลังเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาเยี่ยมแต่ไม่ได้พูดคุยแต่อย่างใด รวมทั้งใบแต่งตั้งทนายจากศาลทหารขณะนี้เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุญาตศาลเข้าเยี่ยมลูกความอีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงแรงจูงใจต่าง ๆ ในการรับสารภาพ ซึ่งในวันนี้ ตนเองจะเดินทางไป เข้าเยี่ยมลูกความ ที่เรือนจำชั่วคราว ที่ มทบ.11 ถนนนครไชยศรี โดยการเข้าเยี่ยมครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ นายอาเดม รับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลือง ที่นำเอาระเบิดไปวางไว้ที่ศาลพระพรหมเอง หลังจากที่เมื่อวันก่อนยังไม่สามารถประสานการเข้าเยี่ยมได้ เนื่องจากโอนคดีไปศาลทหาร โดยจะเข้าสอบถามว่า รับสารภาพจริงหรือไม่ หรือถูกบังคับให้รับสารภาพ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาทุกคนอยู่แล้ว ที่จะมีทนายความในการแก้ต่างทางคดีให้ ทั้งนี้ คาดจะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ช.ม. ในการพูดคุย หลังจากพูดคุยแล้วเสร็จจะเดินทางมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทนายความ อาเดม ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตและล่าม จะไม่เดินทางเข้าไปกับตนเอง เนื่องจาก เกรงว่าจะไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ หลังจากที่ทางการจีนได้แถลงข่าวให้ความร่วมมือกับทางการไทย ในคดีนี้ ก่อนหน้านี้ และทางการตุรกีเอง ก็ยังไม่ยอมรับว่า นายอาเดม เป็นคนสัญชาติตุรกีด้วย

ส่วนบรรยากาศบริเวณทางเข้ากองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทหารยังวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นเคย มีการตรวจ บันทึกภาพรถและบุคคลที่เข้าออกทุกคัน รวมทั้งยังไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวไปทำข่าวเก็บภาพบริเวณด้านหน้าทางเข้า โดยสื่อมวลชนทำได้เพียงสังเกตการณ์บริเวณฝั่งตรงข้ามเท่านั้น