นักวิชาการคาดเผด็จการทหารเมียนมาคลายตัวลง

นักวิชาการ คาด สถานการณ์การเผด็จการทหาร เมียนมา หลังเลือกตั้งจะคลายตัวลง มองการเพิ่มกำลังตำรวจ อาจทำให้มีบทบาทการเมืองมากขึ้น
อาจารย์ ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการสัมมนาโอกาสและความท้าทายในพัฒนาการทางการเมืองของเมียนมา ที่ กระทรวงการต่างประเทศ โดยระบุถึงการเลือกตั้งประเทศเมียนมา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้ ว่า ภายหลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่า สถานการณ์เผด็จการทางการทหารของเมียนมา จะมีความคลายตัวลง แต่ขณะเดียวกัน การจะพัฒนาไปสู่การเป็นประเทศประชาธิปไตยอย่างแท้จริงนั้น คงยังต้องใช้เวลา
อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากพรรคสันนิบาตของ นางออง ซาน ซูจี ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะส่งผลให้ระบบพรรคการเมืองของเมียนมา มีความคล้ายคลึงกับระบบพรรคการเมืองของสหรัฐอเมริกา ที่มี 2 พรรคใหญ่กุมอำนาจ เนื่องจาก ในการเลือกตั้งปี 2010 ที่ผ่านมา พรรคแกนกลางรัฐบาลพม่า (USPD) สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ ขณะเดียวกัน สถานการณ์การเมืองของเมียนมา อาจจะผันผวนอีกครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคม - เมษายน นี้ ในการล็อบบี้ของกลุ่มอำนาจต่างๆ
นอกจากนี้ อาจารย์ ดุลยภาค ยังระบุว่า ขณะนี้ เมียนมา กำลังมีแนวทางในการเพิ่มอัตรากำลังตำรวจ จาก 8 หมื่นนาย เป็น 1 แสนนาย ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในการจัดระบบสังคมพม่าในช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือส่งผลต่อความสัมพันธ์ของกองทัพเมียนมา รวมถึงอาจส่งผลให้สถาบันตำรวจ เข้ามามีบทบาททางการเมืองในเมียนมา มากขึ้น
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับเมียนมา หลังจากนี้นั้น กระทรวงการต่างประเทศ ควรจะกำหนดนโยบายในการเพิ่มความสัมพันธ์กับรัฐในชายแดนของเมียนมา ให้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น เพื่อรักษาประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากในอนาคตนั้น แนวชายแดนของเมียนมา จะมีความเจริญทางเศรษฐกิจมากขึ้น ให้สอดรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ทั้งนี้ แนวชายแดนเมียนมา อาจเป็นศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจของอาเซียน และรวมถึง อาจเป็นประเทศผู้นำทางการค้าด้านเศรษฐกิจที่สำคัญได้อีกด้วย