พังงาอ่วมท่วมรอบ3 เดือดร้อน200หลัง-สตูลกลับสู่ปกติ

จ.พังงาอ่วม น้ำท่วมรอบ 3 ฝนยังคงตกหนัก สวนปาล์ม-ยางพารา เสียหาย น้ำสูง 50 ซม. 200 ครัวเรือนเดือดร้อน บ้านพักกว่า 5 หลัง ขณะที่ สตูล กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รร.หลายแห่ง เร่งทำความสะอาด เตรียมเปิดเรียน
ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมสูง ยังมีระดับสูงอยู่ที่ 50 เซนติเมตร โดยเฉพาะที่วัดศรีนิคม น้ำได้ท่วมขังศาลาการเปรียญ โบสถ์ และกุฏิของพระสงฆ์ และพื้นที่รอบนอกของ ตำบลโคกเคียน ตำบลบางไทร กว่า 200 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ทั้งสวนปาล์มน้ำมัน ยางพารา มังคุด ลองกอง ขณะที่ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ด้าน ชาวบ้านหมู่บ้านรุ่งอรุณ จำนวน 5 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนบ้านเกิดทรุดตัว ตัวผนังบ้านมีรอยแตกร้าวเป็นทางยาว รั้วพังลงไปในลำคลอง เนื่องจากเป็นทางผ่านของกระแสน้ำ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้วย
น้ำท่วมสตูล กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รร.หลายแห่งเร่งทำความสะอาด
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สตูล ขณะนี้ลดลงเกือบเป็นปกติแล้ว ขณะที่ นายนิสิต ชายภักตร์ ผู้อำนวยการสำนักเขตพื้นที่การประถมศึกษา จ.สตูล ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบความเรียบร้อย และให้กำลังใจ ครู นักเรียน ที่เกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม สถานศึกษาหลายโรงเรียนที่เกิดน้ำท่วม ได้นำนักเรียน ครู ผู้ปกครอง เข้าร่วมทำความสะอาด จัดล้างโต๊ะเก้าอี้ นำโต๊ะเก้าอี้มาตากแดด เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเรียนในช่วงนี้ สถานการณ์ดังกล่าวนี้ หากว่าวันนี้ฝนหยุดตก จะส่งผลให้น้ำในพื้นที่ จ.สตูล นั้น แห้งลงเป็นปกติ ซึ่ง นายนิสิต กล่าวว่า ในการป้องกัน แผนการป้องกันน้ำท่วมยังเป็นปกติ เพื่อให้ครูได้เฝ้าระวังตลอด ติดตามข่าวสารเรื่องของพยากรณ์อากาศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพ ต่างขนอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีค่าไว้ในที่สูงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ผวจ.แนะปชช.บนเกาะยาวเดินเรือไม่ประมาท
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พังงา ขณะนี้เริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหลังจากเมื่อหลายวันที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 4 อำเภอ คือ อ.คุระบุรี ที่อยู่ตอนเหนือติดกับ จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง และ อ.ตะกั่วทุ่ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งจากการลงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดพบว่ามีบ้านเรือนได้รับความเสียหายพังลงมา 1 หลัง เนื่องจากโดนน้ำซัด และสะพานขาดใน อ.คุระบุรี นอกจากนี้ ระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ได้ลดลงจนอยู่ต่ำกว่าจุดวิกฤตแล้ว แต่ก็ยังมีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาเพราะอาจจะมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีก ซึ่งต้องติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้การช่วยเหลือในระยะสั้นได้สั่งการให้อำเภอ เจ้าหน้าที่อุทยานต่าง ๆ รวมถึงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น คอยแจ้งเตือนและลงพื้นที่เตรียมพร้อมอพยพผู้ได้รับผลกระทบตลอด 24 ชั่วโมง จึงอยากฝากถึงประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์ดินฟ้าอากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่บนเกาะยาว ที่ต้องใช้เรือสำหรับเดินทาง ให้มีความระมัดระวังและไม่ประมาท