จักรทิพย์ยันอาเดม-ยูซุฟูผตห.ระเบิดราชประสงค์ตัวจริง

จักรทิพย์ยันอาเดม-ยูซุฟูผตห.ระเบิดราชประสงค์ตัวจริง

จักรทิพย์ยันอาเดม-ยูซุฟูผตห.ระเบิดราชประสงค์ตัวจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน 'อาเดม' และ 'ยูซุฟู' เป็นผู้ต้องหาคดีระเบิดราชประสงค์ตัวจริง ย้ำมีหลักฐานเอาผิดทั้งขบวนการ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ระบุว่า การแถลงข่าววันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการสื่อสาร ให้สังคมและต่างประเทศ เห็นถึงการทำงานของกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบทุกขั้นตอน โดยตำรวจทำการสืบสวนจนนำไปสู่การขอหมายจับจากศาลทหาร ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 17 คน และจับกุมผู้ต้องหา สำคัญได้ 2 คน คือ นายเมียไรลี ยูซุฟู และ นายอาเดม คาราดัก โดยตำรวจสามารถชี้แจงขั้นตอนของผู้ต้องหาแต่ละคน ว่า ทำหน้าที่อะไรในขบวนการ รวมถึงหลักฐานประกอบคำให้การ จนนำไปสู่การรับสารภาพ และการทำแผน นอกจากนี้ ยืนยันว่า นายอิซาน 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และคาดว่าอาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว จะเป็นคนวางแผนและสั่งการ มีมูลเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปราบปรามการมนุษย์ข้ามชาติ หรือ การลักลอบขนคนเข้าออกประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย

ขณะนี้ ทางการไทย ได้ใช้ช่องทางในการติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีในต่างประเทศ โดยใช้ช่องทางทางการทูต และในการทำงานครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนนำไปสู่ความสำเร็จระดับหนึ่ง และสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยต่อสายตาชาวโลก พร้อมย้ำว่า นายอาเดม และ นายยูซุฟู เป็นผู้ต้องหาตัวจริงที่ลอบวางระเบิด โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน ที่สามารถระบุได้ว่า ทั้ง 2 คน เป็นผู้ก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เวลาประมาณ 12.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และทหาร จะร่วมชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ต้องหาและขบวนการ โดยจะใช้ห้องประชุมศรียานนท์ บริเวณชั้น 2 อาคาร 1 โดยมีสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ เกาะติดการรายงานข่าวจำนวนมาก

 

โฆษกตร.ไม่ยันคนบงการบึ้มย้ำอาเดมก่อเหตุจริง

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงผู้บงการ หรืออยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรได้ เนื่องจากผู้ต้องหายังให้การไม่ตรงกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องหาหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นการจุดระเบิด ว่าเป็นการจุดด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือรีโมทคอนโทรล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่พบชิ้นส่วนการจุดระเบิด ซึ่งจะประสานข้อมูลกับผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสารตรวจสอบอีกครั้ง แต่ยืนยันว่า ภาพวงจรปิดเส้นทางที่ผู้ต้องหาก่อเหตุและเข้าไปเปลี่ยนชุดหลังก่อเหตุได้มาจากกรุงเทพมหานคร โดยมีวันเวลาระบุไว้ชัดเจน ไม่ใช่การทำขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่า ตำรวจมีหลักฐานยืนยันตัวคนร้ายอย่างแน่หนา แม้จะยังไม่พบโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้ รวมถึงเสื้อสีเหลือง ที่คนร้ายใส่วันก่อเหตุ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้การพิจารณาคดีอยู่ในอำนาจของศาลทหาร เนื่องจากข้อหาความผิดของผู้ต้องหาในคดีนี้ เข้าข่ายความผิดในการครอบครองยุทธภัณฑ์เกี่ยวกับระเบิด ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของ คสช. โดยมั่นใจว่า หลักฐานทั้งหมด สามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ ซึ่งในเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวน จะชี้แจงต่อสื่อมวลชน ทั้งรายละเอียดของระเบิด พยานหลักฐาน พยานวัตถุ เชื่อมั่นสามารถตอบข้อสงสัยของสังคมได้ทั้งหมด

 

ทนายยังไม่ได้เยี่ยมอาเดมติดพงส.มาสอบเพิ่ม

นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายบิลาล มูฮัมหมัด หรือ นายอาเดม คาราดัก (ชื่อตามพาสปอร์ต) ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยม นายอาเดม แต่ยังไม่ทันได้เยี่ยมหรือพูดคุยกันเนื่องจากตรงกับช่วงที่พนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำ นายอาเดม เพิ่มเติม ซึ่งวันนี้มีเพียงให้ นายอาเดม เซ็นต์ใบแต่งทนายใหม่ หลังศาลทหารได้ออกหมายจับเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้คดีต้องขึ้นกับศาลทหาร ซึ่งยืนยัน นายอาเดม มีความต้องการให้ตนเป็นทนายในคดีนี้ต่อ และช่วงบ่ายวันนี้ก็จะได้เดินทางไปยื่นเอกสารดังกล่าวที่ศาลทหารกรุงเทพ และเมื่อศาลทหารมีคำสั่งให้ตั้งทนายความใหม่อย่างถูกต้อง รวมทั้งออกใบรับรองล่ามที่ทางสถานทูตตุรกีส่งมาช่วยแปลภาษาเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถเข้าเยี่ยม นายอาเดม ในฐานะลูกความได้

สำหรับประเด็นที่จะเข้าพูดคุยกับ นายอาเดม นั้น ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำรับสารภาพ ล่าสุด เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา นายอาเดม ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่กลับให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน ว่ามีการรับสารภาพในประเด็นใดบ้าง และเป็นไปตามพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนหรือไม่ โดยเฉพาะภาพถ่ายที่ปรากฏตามสื่อ ที่เป็นภาพนิ่งและไม่เคยเห็นมาก่อน แต่หาก นายอาเดม ให้การรับสารภาพจริง ก็จะทำงานง่ายขึ้นเพราะทางทนายเองก็จะดูเพียงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุเท่านั้น เพื่อช่วยเหลือลดหย่อนโทษในขั้นตอนต่อไป

โดย นายชูชาติ ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่า นายอาเดม เป็นคนสัญชาติตุรกีหรือไม่ เนื่องจากยังให้การสับสน สำหรับการติดต่อไปหาพี่ชายของ นายอาเดม ตามความต้องการของลูกความนั้นยังไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากชื่อที่ นายอาเดม ให้มาซ้ำกับหลายบุคคล

รวมทั้งอาการป่วยของ นายอาเดม ขณะนี้ดีขึ้นหลังพบว่ามีอาการความดันโลหิตสูงและอาหารเป็นพิษ ซึ่งก็มีแพททย์ดูแลอย่างใกล้ชิด


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล