′จักรทิพย์′ บินมาเลย์ หิ้ว 2 มือบึ้มกลับไทย เผยตั้งใจบึ้มท่าเรือฝั่งธน แต่ระเบิดไม่ทำงาน
ความคืบหน้าคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร มีรายงานว่า ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ขึ้นเครื่องบินบินด่วนไปประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบอธิบดีตำรวจมาเลเซีย หลังตำรวจมาเลเซียควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งยอมรับภายหลังว่าเป็น มือวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ รวมถึงคุมตัว "ชายเสื้อฟ้า" ที่วางระเบิดท่าเรือสาทร
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องสงสัยที่ยอมรับว่าเป็น "ชายเสื้อเหลือง" ได้แสดงหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ที่ออกโดยสถานทูตตุรกี ประจำประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมเดินทางไปประเทศตุรกี แต่ถูกตำรวจมาเลเซียควบคุมตัวไว้สอบสวนก่อน
โดยผู้ต้องสงสัยดังกล่าวอ้างว่าชื่อ นายนาลิ หรือ อาริ อายุประมาณ 30 ปี พร้อมอ้างว่าหลังก่อเหตุ มีกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติให้ความช่วยเหลือทั้งที่ไทยและมาเลเซีย ส่วน ชายเสื้อฟ้า รายงานข่าวระบุว่า ชื่อ นายซูแบร์ อับดุลลา และมีรายงานด้วยว่า พลตำรวจเอกจักรทิพย์ พร้อมคณะจะนำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนขึ้นเครื่องบินกลับมาถึงประเทศไทยในวันนี้ (23 ก.ย.)
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า ข้อมูลทั้งหมดที่ผู้ต้องสงสัยที่ยอมรับว่าเป็น ชายเสื้อเหลือง ให้การต่อตำรวจมาเลเซียยังไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งชื่อ "นาลิ" หรือ "อาริ" ก็อาจจะเป็นชื่อปลอม แต่ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้รับการบอกเล่าทั้งหมดได้รายงานต่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมแล้ว
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบเบาะแสใหม่ ว่า มีหนึ่งในกลุ่มคนร้ายเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดมาเลือกซื้ออุปกรณ์ประกอบระเบิด ภายในร้านค้าแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 44/2 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อนำประกอบระเบิดและนำไปใช้วางที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ก่อนจะระเบิดขึ้นในช่วงค่ำวันที่ 17 สิงหาคม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวเจ้าของร้านมาสอบสวนหารายละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกันรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์นั้น ไม่ได้ตั้งใจจะวางระเบิดที่แยกราชประสงค์เป็นจุดแรก แต่คนร้ายพยายามวางระเบิดที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง ที่มีผู้คนพลุกพล่านย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือสาทร โดยตั้งใจจะให้จุดนี้ระเบิดเป็นจุดแรก แต่ระเบิดไม่ทำงานตามแผนที่วางไว้ จึงได้นำระเบิดอีกลูกหนึ่งไปวางไว้ที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์
จากนั้น ชายเสื้อฟ้า จึงได้นำระเบิดที่ไม่ทำงานจากท่าเรือย่านฝั่งธนบุรีไปทิ้งน้ำที่ท่าเรือสาทรก่อนระเบิดดังกล่าวจะระเบิดขึ้นใต้น้ำในวันที่ 18 สิงหาคม คาดว่าอาจเป็นเพราะวงจรช็อตจึงเกิดระเบิดขึ้น