หนุ่มใหญ่ติดโรคร้าย ชวนคู่หูปล้นทั่วเชียงใหม่ พบประวัติข่มขืนอื้อ

หนุ่มใหญ่ติดโรคร้าย ชวนคู่หูปล้นทั่วเชียงใหม่ พบประวัติข่มขืนอื้อ

หนุ่มใหญ่ติดโรคร้าย ชวนคู่หูปล้นทั่วเชียงใหม่ พบประวัติข่มขืนอื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจรวบหนุ่มติดเชื้อเอชไอวี ปล้นจี้ทรัพย์สาวเชียงใหม่ สารภาพทำเพราะหาเงินเลี้ยงเมีย พบประวัติเพิ่งปล้นข่มขืนสาวหลายราย แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ เร่งตามล่าอีกคนที่ยังหลบหนี

เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงการจับกุม นายสมสุข อายุ 33 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีดโดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทองคำ อาวุธมีด จำนวน 4 เล่ม และ รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวครีม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก นางอรุณี ผู้เสียหายว่า มีคนร้าย 2 คน เข้ามาก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์ บริเวณช่วยรอยต่อระหว่างหมู่บ้านทุ่งป่าคา-บ้านดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ คนร้ายได้สร้อยคอทองคำ 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 1,200 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดตามโครงการ Police Eye กระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายสมสุข โดยสามารถจับกุมตัว พร้อมของกลาง ได้ในพื้นที่ ม.2 ต.สง่าบ้าน อ.ดอยสะเก็ด ส่วนผู้ต้องหาอีกรายคือ นายอุทัย อายุ 18 ปี ชาว จ.ลพบุรี ยังหลบหนีการจับกุม

จากการสอบสวน นายสมสุข สารภาพว่าได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุจริง โดยไม่เลือกเหยื่อว่าเป็นเพศใด หากมีโอกาสที่เหมาะสมก็จะลงมือก่อเหตุทันที โดยจะใช้มีดพกข่มขู่เหยื่อและทำการชิงทรัพย์ โดยอ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากไม่มีงานทำ เพิ่งออกจากคุกมาประมาณ 2 เดือน ในคดีชิงทรัพย์

นายสมสุข ยังอ้างว่า ต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูแลภรรยา จึงจำเป็นต้องลงมือก่อเหตุ พร้อมทั้งสารภาพว่า ตนเองติดเชื้อเอชไอวีมาประมาณ 10 ปี และยังคงขายบริการทางเพศให้กับผู้ที่ซื้อบริการ โดยจะได้รับค่าบริการ ครั้งละ 500 บาทต่อคน

ทั้งนี้จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายและร่วมกันชิงทรัพย์อีกหลายรายการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายสมสุข อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือ ข่มขืนแต่อย่างใด นายอุทัย เป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัว นายอุทัย มาดำเนินคดี และควบคุมตัว นายสมสุข ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook