ฮือฮา! เจ้าอาวาสจันทบุรีใช้เมรุเป็นกุฎิ

ฮือฮา! เจ้าอาวาสจันทบุรีใช้เมรุเป็นกุฎิ

ฮือฮา! เจ้าอาวาสจันทบุรีใช้เมรุเป็นกุฎิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ วัดสะพานเลือก ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังมีชาวบ้านร่ำลือกันว่า เจ้าอาวาสใช้เมรุหลังเก่า ดัดแปลงสร้างเป็นกุฏิพระ ไว้สำหรับจำวัด เนื่องจากต้องการปลีกวิเวกทำสมาธิ

เมื่อเดินทางไปถึงได้พบกับ พระอาจารย์ สุทับ สุเมโธ เจ้าอาวาส วัดสะพานเลือก ได้พาไปเยี่ยมชมกุฏิพระ ซึ่งเป็นเมรุหลังเก่าที่ถูกสร้างไว้บริเวณหลังวัด ติดป้ายไว้ที่ด้านหน้าว่า "ศาลาสัจจะเที่ยงธรรม" โครงสร้างมีสภาพที่สมบูรณ์ มีการดัดแปลงต่อเติมพื้นที่ส่วนหน้าเมรุ ที่ใช้เป็นที่ตั้งศพให้ญาติได้วางดอกไม้จันท์ ให้เป็นสถานที่ประกอบกิจสงฆ์

มีหน้าต่างไม้ วางอยู่หน้าประตูเผาศพ พื้นปูนและบันได ทำการปูกระเบื้องสีน้ำตาลขึ้นใหม่ พร้อมนำไม้ฉลุ ลวดลายสวยงาม มากั้นเป็นเป็นระเบียงทั้ง 4 ด้าน เสาเมรุถูกประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องลายอิฐ และโคมไฟส่องแสงสว่าง พร้อมติดหิ้งประดิษฐานพระพุทธรูป ปางสมาธิ ไว้เหนือปรูเผาศพ

ส่วนด้านข้างเตาเผาศพได้กั้นไว้เป็นห้อง นำเตียงไว้มาวางใช้สำหรับจำวัด ด้านหลังเมรุ ที่เคยใช้เป็นห้องเก็บของได้ดัดแปลงสร้างเป็นห้องน้ำขึ้นมาแทนที่ พร้อมทั้งทาสีโดยรอบศาลาและปล่องเมรุ เพื่อให้เกิดความสวยงาม

พระอาจารย์ สุทับ สุเมโธ เจ้าอาวาส วัดสะพานเลือก เปิดเผยถึงสาเหตุที่ใช้เมรุมาดัดแปลงสภาพสร้างเป็นกุฏิไว้เป็นที่พักจำพรรษา เพราะว่าตนเองนิสัยชอบสันโดษ ชอบปลีกวิเวก นั่งสมาธิบำเพ็ญธรรม เมื่อเห็นเมรุหลังเก่า ซึ่งได้ถูกทิ้งขว้างไม่ได้ใช้งาน เห็นว่าบริเวณดังกล่าวเงียบสงบดี ประกอบกับทางวัดได้สร้างเมรุหลังใหม่ขึ้นมา จึงได้ปรึกษาญาติโยม เพื่อจะใช้เมรุร้างเป็นกุฏิพักจำพรรษา แม้ว่าจะถูกญาติโยมทัดทานเพียงใด พระอาจารย์ไม่ยอม

ต่อมาได้ทำการต่อเติมชายคาออกมาทั้ง 3 ด้าน ด้วยฝีมือของท่านเองและญาติโยมได้มาช่วยกันต่อเติมจนแล้วเสร็จ โดยพระอาจารย์จะนอนพักบริเวณด้านประตูศพทั้ง 2 ประตู บางครั้งครั้งก็จะเข้าไปนั่งสมาธิ และศึกษาพระบาลีห้องด้านข้างเตาเผาศพ ซึ่งมีขนาดตัวนอนได้พอดีเพียงคนเดียว

นอกจากนี้พระอาจารย์ได้กล่าวอีกว่า ได้จัดบริเวณด้านล่าง ไว้ตอนรับแขกแบบเรียบง่าย และจัดเป็นสถานที่ให้ญาติโยมได้มานั่งสมาธิ บำเพ็ญธรรมกันเป็นประจำ

ส่วนชีวิตที่ผ่านมา พระอาจารย์กล่าวว่า ตนเองชอบงานด้านศิลปะ ซึ่งภายในบริเวณโดยทั่วไป ท่านจะวาดภาพพุทธประวัติตามศาลาต่างๆ ไว้ให้ญาติโยมได้ศึกษา สีที่ใช้จะใช้เหมือนสีจีวร ดูแล้วไม่ฉูดฉาดตา เรียบง่ายสวยงาม ใครเห็นจะเกิดความประทับใจ และยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัดและพระสงฆ์โดยทั่ว อย่ามีความโลภกับวัตถุมากจนเกินไป สิ่งไหนที่เราน่าจะเข้าปรับปรุงได้ ก็สมควรทำ

พร้อมกันนี้พระอาจารย์ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า กุฏิเมรุหลังนี้ จะพักจนกว่าจะมรณภาพ และเป็นสถานที่เผาตนเองอีกด้วย - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook