ผบ.ทบ.บอกบึ้มนราไม่โยงถกสันติสุขยันทบ.ทำงานเต็มที่

ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ภาคใต้ ระบุ บึ้มนราฯ ไม่โยงถกสันติสุข ยัน กองทัพทำงานเต็มที่ มั่นใจ คดีระเบิดราชประสงค์ คืบหน้ามาก สั่ง ทภ.1 ดู น.ศ. จัดกิจกรรมครบรอบ 9 ปี การรัฐประหาร ให้อยู่ในกรอบ

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ใน จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเป็นการก่อเหตุจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือวิทยุ ซึ่งทางกองทัพ ไม่ได้มีการละเลย ยังคงมีความรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่เสมอ และได้สั่งให้แม่ทัพภาคที่ 4 ระมัดระวังในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านกำลังพล โดยยอมรับว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งต้องมีการแก้ไขต่อไปและการเดินทางลงไปในวันนี้ จะได้ไปให้กำลังใจและเน้นย้ำกับผู้บังคับบัญชาหน่วยในพื้นที่

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ได้ดีพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งได้พยายามทำให้ได้ผลที่ดีทั้งเชิงรับและเชิงรุก จึงไม่อยากให้นำสถิติในอดีตและปัจจุบันมาเปรียบเทียบกัน เพราะเหตุการณ์ไม่ได้เกิดเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ไม่อยากให้คิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากกระบวนการพูดคุยสันติสุข ซึ่งผู้ก่อเหตุมีความคิดที่จะทำการแบ่งแยกดินแดนอยู่ตลอด แต่ยืนยันไม่สามารถเป็นไปได้ และขอให้หยุดความคิดดังกล่าว แล้วหันมาร่วมกันพัฒนาพื้นที่ทำให้เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ดีขึ้น ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะก่อเหตุร้าย เพราะจะมีแต่ความเสียหายและประชาชนในพื้นที่ก็ไม่เห็นด้วย

พล.อ.อุดมเดช ยังกล่าวถึงกระบวนการพูดคุยสันติสุข ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างความเชื่อใจซึ่งกันและกัน แต่คงจะต้องใช้เวลา และที่ผ่านมา รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาโดยการใช้สันติวิธี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็พยายามที่จะใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ส่วน 3 ข้อเสนอของกลุ่ม มาราปาตานี นั้น ทางการไทยยังไม่สามารถยอมรับได้ รวมถึงข้อเสนอจากไทย ที่ทางกลุ่ม มาราปาตานี ก็ยังไม่แสดงท่าทีที่จะยอมรับ

ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องปรับความเข้าใจต่อกัน พร้อมยอมรับยังไม่สามารถดูแล หรือเจาะเข้าไปในบางเรื่องได้ ส่วนการข่าวที่ระบุว่า มีบางบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่นั้น และยังไม่สามารถกล่าวโทษได้ เนื่องจากยังไม่มีการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามพูดคุยเพื่อให้เปลี่ยนแนวคิด

พล.อ.อุดมเดช กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ ที่จะมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 9 ปี การรัฐประหาร ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ได้มอบหมายให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย โดย แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ดูแลทำความเข้าใจ ซึ่งไม่น่าจะกระทบกับความมั่นคงในประเทศ แต่จะติดตามความเคลื่อนไหว ให้อยู่ในกรอบของความสงบ ส่วนจะห้ามจัดกิจกรรมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดของการจัดกิจกรรม

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงความคืบหน้า เหตุระเบิดราชประสงค์ ที่ขณะนี้ได้ครบ 1 เดือนแล้ว ว่า มีความคืบหน้าไปตามลำดับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คลี่คลาย ดำเนินจนสามารถออกหมายจับคนร้าย รายที่ 13 ได้ ซึ่งรายละเอียดของคดีต้องรอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่

พร้อมกันนี้ พล.อ.อุดมเดช กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ภาคตะวันออก ว่า ได้สั่งการไปตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ให้หน่วยทหารในพื้นที่ลงไปให้การช่วยเหลือประชาชน โดยร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งทางนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความแสดงความเป็นห่วงผ่านมายังตนเอง และกำชับให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยทหาร มีการวางแผนการฟื้นฟูหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายโดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาพยาบาล และการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย