ปกรณ์แนะกรธ.เกลาร่างรธน.เดิมประชามติ

อดีต กมธ.ยกร่าง รธน. 'ปกรณ์' ชี้ ประธาน กรธ. คุณสมบัติต้องคล้าย 'บวรศักดิ์' แนะนำร่างรัฐธรรมนูญเดิมพิจารณาอีกครั้ง

นายปกรณ์ ปรียากร อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ส่วนตัวมั่นใจว่ารัฐธรรมนูญที่พึ่งร่างเสร็จนั้นเป็นรัฐธรรมนูญที่มีการปรับแก้มาจากรัฐธรรมนูญปี 40 - 50 แล้ว ดังนั้นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 21 คน ที่จะเข้ามาทำหน้าที่นั้นต้องมีการขัดเกลาส่วนที่เป็นปัญหาอยู่ในแต่ละประเด็น รวมไปถึงการดำเนินการปฏิรูปประเทศเพื่อให้เดินหน้าและส่วนตัวเห็นว่าควรนำร่างล่าสุดมาพิจารณาอีกครั้ง หากมีการปรับแก้แล้วเสร็จให้ประชาชนตัดสินด้วยการทำประชามติ

ทั้งนี้ ประธานในส่วนของประธาน กรธ. นั้น ตนเองเห็นว่าควรมีคุณสมบัติที่คล้ายกับ นายบวรศักดิ์  อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์กว้าง เป็นผู้ที่เข้าถึงการทำงานของทุกฝ่าย เนื่องจากหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญนั้น อยู่ที่การเสริมสร้างสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม ดังนั้น ผู้ที่จะเป็นประธานนั้นต้องชัดเจน ตรงไปตรงมา กล้าที่จะยืนยันในความคิดต่าง ๆ

'ยุทธพร' ชี้ กรธ. ต้องมีความหลากหลาย

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN  เกี่ยวกับมุมมองในการตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า เบื้องต้น คุณสมบัติทั่วไปคงไม่ต่างจากในอดีตที่ผ่านมาคือ ต้องเป็น นักกฎหมาย นักรัฐศาสตร์ มีความเข้าใจเรื่องการเมือง แต่สิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุดคือ จะต้องมีความหลากหลาย แตกต่างทางความคิด เพราะการเอาคนที่มีจุดยืนทางความคิดเดียวกันมาเขียนกติกา  อาจกลายเป็นไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะมองว่าเป็นการเขียนกติกาเพียงฝ่ายเดียวได้ เพราะรัฐธรรมนูญที่ดีควรเป็นข้อตกลง ยอมรับซึ่งกันและกันของฝ่ายที่เห็นแตกต่างกัน  โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน โดยการรับฟังความเห็น ตลอดจนการทำประชามติ ส่วนเรื่องการจะหยิบร่างเดิม หรือ รธน. ปี 40 หรือ 50 มาเป็นต้นแบบนั้น ไม่สำคัญ เพียงแต่การหยิบร่างเดิมที่ถูก สปช. คว่ำไปมาเป็นโครง จะช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ยุทธพร ย้ำว่า การให้ประชาชนมีส่วนร่วมสำคัญที่สุด ส่วนการทำประชามติ ต้องให้เกิดกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด โดยอยากให้ยึดกระบวนการและขั้นตอนทำประชามติ เหมือนกรณี ประเทศสกอตแลนด์  ที่ขอแยกออกจากสหรัฐราชอาณาจักร นั้น จะเห็นว่า มีกระบวนการศึกษาเรียนรู้อย่างครบถ้วน รอบด้าน ก่อนที่จะลงประชามติ