นายกฯสานโครงการพระราชทานช่วยเหลือกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี เตรียมสานต่อโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ตามที่ได้มีโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาตามพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ได้มีการสร้างโรงเรียนในจังหวัดกัมปงเชอเตี่ย เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา และได้ขยายเป็นโรงเรียนระดับมัธยม โดยโครงการดังกล่าวได้มีมติเห็นชอบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 หลังจากนั้นได้หยุดชะงักลง ระหว่างเกิดเหตุความไม่สงบของสถานทูตไทยในกัมพูชา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่าอาเซียนที่แข็งแรง คือ การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จึงสานต่อโครงการดังกล่าว เพราะโครงการดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน นี้ และทางรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาของกัมพูชาได้เสนอว่าจะเปิดโรงเรียนอีกที่เกาะกง ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทย
โดยมีการขอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ การเบิกจ่ายงบประมาณไว้ที่กรมความร่วมมือระหว่างประเทศและกรมราชองค์รักษ์เป็นผู้รับผิดชอบ การลงนามบันทึกความเข้าใจขอให้สมุหราชองครักษ์ หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนาม และขอให้หน่วยราชต่างๆ ให้ความร่วมมือ
นายกฯขอปชช.ระวังพายุดีเปรสชั่นหว่ามก๋อ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเรื่องประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งขณะนี้มีพายุดีเปรสชั่นหว่ามก๋อที่ขึ้นฝั่งจากประเทศเวียดนามนั้น ขณะนี้กำลังอ่อนกำลังลงเป็นหย่อนความกดอากาศต่ำซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศในภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้ประชาชนติดตามเพื่อระมัดระวังและให้หน่วยงานราชการ ทหาร และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้งกำลังคนและเครื่องมือเพื่อให้ช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า อย่าคิดถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหรือการระบายน้ำเพียงอย่างเดียว จะต้องพยายามกักเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด และอยากให้ประชาชนขุดบ่อกักเก็บน้ำเพื่อให้ผ่านช่วงฤดูแล้งหน้าไปให้ได้ ซึ่งสถานการณ์ปีนี้มีปริมาณฝนเฉลี่ยน้อยกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 25 และน้ำในเขื่อนใช้ได้เพียงร้อยละ 26 ส่วนในกลุ่มลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาใช้ได้เพียงร้อยละ 12 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าฤดูแล้งหน้าจะมีปัญหาแน่นอนจึงไม่อยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หน่วยงานต่างๆ จึงต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
ครม.ทุ่มงบ681ล.ช่วยเกษตรกรประสบภัย
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบกลางรายจ่ายเงินสำรองฉุกเฉิน วงเงินกว่า 681 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร รวมกว่า 61,700 ราย ประกอบด้วยเกษตรกรที่ปลูกพืช 59,000 ราย และประมงอีก 2,200 ราย และ ปศุสัตว์ 14 ราย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2557 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2558 โดยประกอบด้วย ภัยพิบัติ 5 ชนิด คือ อุทกภัย ภัยแล้ง ภัยฝนทิ้งช่วง โรคพืช และศัตรูพืชระบาด ซึ่งยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้น จะไม่ซ้ำกับการช่วยเหลือที่มีมาแล้วก่อนหน้านี้