นายกฯหวังรธน.ไวกว่า20ด.-ไม่ชัดปมบึ้มคาดไม่โยงอุยกูร์

นายกฯหวังรธน.ไวกว่า20ด.-ไม่ชัดปมบึ้มคาดไม่โยงอุยกูร์

นายกฯหวังรธน.ไวกว่า20ด.-ไม่ชัดปมบึ้มคาดไม่โยงอุยกูร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี หวัง รธน.ไวกว่า 20 เดือน ขณะ สปท. มีหลายกลุ่ม คาดรายชื่อชัดเจนหลังกลับจากประชุม UN - ไม่ชัด ปมเหตุระเบิด คาด ไม่โยงอุยกูร์ ด้าน คสช. จ่อระงับการเงินคนทำผิดซ้ำ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมกันของคณะรัฐมนตรี และ คสช. วันนี้ ว่า ได้ทำความเข้าใจในเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน เนื่องจากระยะเวลาตามโรดแมปต้องขยายไปอีกกว่า 20 เดือน ซึ่งส่วนตัวคาดหวังให้ใช้เวลาน้อยกว่านั้น แต่ยังยืนยันว่าจะมีการเร่งรัดทั้งในเรื่องของร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ พร้อมให้แนวทางในเรื่องของร่างรัฐธรรมนูญว่าจะทำอย่างไรให้มีความเป็นประชาธิปไตยและบ้านเมืองมีความปลอดภัยเกิดการปฏิรูปอย่างชัดเจน ส่วนการสรรหาสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นั้น จะมีจากทั้งกลุ่มข้าราชการ นักฎหมาย นักวิชาการ รวมถึงนักการเมือง และกลุ่มการเมือง ซึ่งได้มีการติดต่อกันแล้ว แต่ต้องยอมรับเป็นกลาง อีกทั้งยังมีทหารแต่ขออย่ามองว่าเป็นพรรคพวก รวมถึงจะมีอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้วย ส่วนระยะเวลาการสรรหารายชื่อทั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) รวมถึง สปท. จะเริ่มมีความชัดเจนก่อนการเดินทางไปร่วมการประชุมสหประชาชาติ (UN) ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะกลับมาพิจารณาอีกครั้ง

 

นายกฯไม่ชัดปมบึ้มคาดไม่โยงอุยกูร์

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า เชื่อว่าเหตุระเบิด ที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ทางรัฐบาลได้ส่งกลับชาวอุยกูร์ แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่ง พร้อมย้ำว่าในเรื่องของการส่งกลับผู้อพยพนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการตามกระบวนการ และใช้วิธีการที่ถูกต้องมากที่สุด ส่วนรายงานข่าวที่ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย กรณีที่มาเลเซียควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 รายนั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่ทาง คสช. มีการเชิญอดีตนักการเมือง รวมถึงสื่อมวลชนไปปรับทัศนคตินั้น ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพราะไม่ชอบหน้า โดยขอให้ดูที่เจตนาคนเหล่านั้น ซึ่งทำผิดต่อกติกาที่กำหนดไว้ หากใครทำผิดก็จะต้องถูกเรียกตัวทั้งหมด โดยยืนยันจะต้องมีกลไก เพื่อทำให้สถานการณ์มีความสงบ และขอให้ยอมรับกติกา ทั้งนี้ หากมีการกระทำความผิดซ้ำอีก ก็จะมีมาตรการเพิ่มเติมต่อไป เช่น การระงับธุรกรรมทางการเงิน พร้อมย้ำว่า ตนเองจะไม่ปรองดองกับคนที่ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่มีการต่อรอง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล