สราวุธเตือนกม.อนาจารเด็กบังคับใช้แล้ว

เลขาธิการสำนักกฎหมาย เนติบัณฑิตยสภา ระบุ กฎหมายเพิ่มโทษคนส่งต่อข้อมูลอนาจารเด็ก ประกาศใช้แล้ว โทษหนักสูงสุดคุก 10 ปี ปรับ 2 แสน
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายเนติบัณฑิตยสภา กล่าวถึงการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ความผิดเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ว่า ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2558 ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งได้ประกาศการใช้เป็นกฎหมาย ลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยกฎหมายจะมีผลใช้บังคับภายใน 90 วันนับจากวันประกาศ คือ เดือน ธ.ค. 58 นี้ ซึ่งการแก้ไขกฎหมายนี้ ได้กำหนดบทลงโทษเป็นการเฉพาะกับผู้ที่กระทำผิดในลักษณณะมีไว้ ส่งต่อและเพื่อประโยชน์ทางการค้า
นายสราวุธ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ มีที่มาจากเหตุผลว่า ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กได้ถูกกำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและต้องมีการออกกฎหมายมารองรับ โดยมีการร่างบทบัญญัติดังกล่าว ให้เป็นกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 และ 287/2 ซึ่งมีองค์ประกอบความผิดว่า ผู้ใดมีการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก โดยเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น คนที่มีสื่อลามากอนาจารโดยครอบครอง ไม่ว่าจะรับมาทางไลน์จากเพื่อน เมื่อเปิดดูแล้วมีเจตนาแสวงหาเพื่อประโยชน์ในทางเพศของตน ก็ถือว่ามีเจตนาพิเศษ ครบองค์ประกอบความผิดแล้ว สำหรับผู้ที่ส่งต่อสื่อลามกอนาจาร กฎหมายระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ที่ทำไปเพื่อประสงค์แห่งการค้า ไม่ว่าจะแจกจ่าย อวดอ้างแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าในราชอาณาจักร พาไปหรือทำให้แพร่หลายจะมีโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท