ไพโรจน์มองรธน.ใหม่เปิดพื้นที่ภาคปชช.มากขึ้น
'ไพโรจน์' มองรธน.ใหม่เปิดพื้นที่ภาคปชช.มากขึ้น แต่แยกสิทธิมนุษยชนออกจากสิทธิปวงชนชาวไทยไม่ถูกต้อง
นายไพโรจน์ พลเพชร สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญ 2558 ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่พยายามเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนมากขึ้น แต่กลับมีการแยกสิทธิมนุษยชนออกจากสิทธิของปวงชนชาวไทย แต่ในทางวิชาการสิทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากได้ อีกทั้งยังทำให้การสื่อสารที่สร้างความเกลียดชั่ง หรือ เฮดสปีด เป็นเสรีภาพในการแสดงออกที่ทุกคนสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า สิ่งที่รู้สึกห่วงใยคือ การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ฝ่ายมั่นคงพยายามขอพื้นที่ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศในห่วงเวลาที่ฝ่ายการเมืองไม่สามารถหาทางออกได้ รวมถึงขออำนาจการกำหนดยุทธศาสตร์การปฏิรูปและสร้างความปรองดองของประเทศ และอำนาจสรรหาสมาชิกวุฒิสภา 123 คน ซึ่งอำนาจเหล่านี้จะดำเนินควบคู่ไปกับอำนาจปกติของฝ่ายการเมือง
นิกรชี้คปป.ปิดโอกาสการพัฒนาปท.
นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญ 2558 ว่า ในบทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญได้กำหนดวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศไว้หมดแล้ว ดังนั้น การกำหนดในมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่มีอำนาจเหนือรัฐบาลขึ้นมาอีก จะเป็นการปิดโอกาสการพัฒนาของประเทศ รัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง ไม่สามารถบริหารนโยบายได้ จะเกิดปัญหาเป็นรัฐซ้อนรัฐ และหากนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดหน้าบังเอิญเป็นหัวหน้า คปป. จะทำให้ประเทศหยุดชะงักอีก 10 ปี กลายเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นไปทำลายรัฐธรรมนูญเสียเอง เหมือนกับงูกินหางเกลี้ยง
ส่วนการทำประชามติของประชาชน นายนิกร มองว่า เป็นเหมือนการไปเรียกร้องในสิ่งที่ถูกยื่นให้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนกับยุทธการมัดตาชก ซึ่งหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผ่านการทำประชามติ น่าเป็นห่วงมาก เพราะจะไม่ถูกยอมรับ