รวบ1ต้องสงสัยบึ้มราชประสงค์-ผบ.ตร.มุ่งปมแค้นส่วนตัว

ผู้บังคับการปราบปราม ยัน รวบ 1 ต้องสงสัยบึ้มราชประสงค์ คาแฟลตย่านหนองจอก พบวัตถุประกอบระเบิดเพียบ พาสปอร์ตปลอม ขณะที่ ผบ.ตร. ยันจับชายต่างชาติโยงบึ้ม มุ่งปมแค้นส่วนตัว ไม่ใช่ก่อการร้าย -ตร.เชิญล่าม2สัญชาติช่วยสอบ
พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการปราบปราม ยอมรับว่า ขณะนี้ ตำรวจ ทหาร ได้เข้าคุมตัวผู้ต้องสงสัย เป็นชาย 1 ราย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยสัญชาติ ว่า อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ โดยสามารถคุมตัวได้ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม.
อย่างไรก็ตาม ทีมจับกุม ตรวจค้นห้องพักของชายคนดังกล่าวของทางเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์และวัตถุที่ใช้สำหรับประกอบระเบิดจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกปรายแบบกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซม. ชนิดเดียวกับที่พบที่ราชประสงค์ และท่าเรือสาทร
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การเข้าค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวชายชาวต่างชาติได้ 1 คน และอยู่ระหว่างตรวจค้นห้องพัก 3 - 4 ห้อง ที่ชายต้องสงสัยเช่าพัก เบื้องต้นพบวัตถุบางอย่างที่คล้ายว่าจะสามารถนำไปประกอบเป็นระเบิดได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเบื้องต้นพบว่า ชายต้องสงสัยมาเช่าห้องพัก เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบสัญชาติ พร้อมสอบปากคำผู้ต้องสงสัย และตรวจค้นห้องพักทั้ง 4 ชั้น และมีรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จักรทิพย์ยันชายสงสัยบึ้มพบพาสปอร์ตตุรกี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายต้องสงสัยก่อเหตุบริเวณระเบิดราชประสงค์ ได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก ว่า จากข้อมูลพาสปอร์ตการเดินทาง ระบุว่า เป็นชายสัญชาติตุรกี ซึ่งทีมสืบสวนพบความเชื่อมโยง จึงเข้าตรวจพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่า แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมาถูกทางแล้ว
สมยศจ่อสอบ1ต้องสงสัยบึ้ม-กันคนออกพื้นที่
ความคืบหน้าล่าสุด เหตุเจ้าหน้าที่ควบคุมชายต้องสงสัย ไม่ยืนยันสัญชาติ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดราชประสงค์ โดยควบคุมตัวได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 ย่านหนองจอก ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ล่าสุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กันผู้สื่อข่าวและประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกห่างจากพื้นที่อพาร์ตเมนต์ รัศมีโดยรอบประมาณ 100 เมตร โดยให้อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามเท่านั้น พร้อมปิดช่องการจราจรบนถนนเชื่อมสัมพันธ์ ฝั่งขาออก โดยเปิดการจราจรให้รถวิ่งเพียง 1 ช่อง ส่งผลให้ขณะนี้การจราจรทั้งสองฝั่ง ติดขัดเป็นอย่างมาก
และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู่บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างเข้าทำการตรวจสอบ
ผบ.ตร.ตรวจสอบพื้นที่พบชายต้องสงสัยแล้ว
บรรยากาศล่าสุดภายหลังจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ซึ่งขณะนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังอยู่ระหว่างรับรายงานข้อมูลจากชุดตรวจค้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พบวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงลูกบอลแบริ่ง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการประกอบวัตถุระเบิด อีกทั้ง ยังพบพาสปอร์ตหลายเล่ม แต่ไม่ระบุว่าสัญชาติใด
ขณะที่โดยรอบพื้นที่ เจ้าหน้าที่ยังคงกันสื่อมวลชนและประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ห่างจากบริเวณ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
สมยศยันจับชายตปท.สงสัยบึ้ม-ส่งทหารคุมสอบ
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุจับกุมชายชาวต่างชาติ ต้องสงสัยในคดีระเบิดราชประสงค์ บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ย่านหนองจอก พร้อมเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องหา 1 คน เป็นชายชาวต่างชาติ แต่ยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้ พร้อมของกลาง วัตถุระเบิดจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิด ไว้ในครอบครอง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องสอบสวนตามขั้นตอนก่อน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ต้องใช้ล่าม และเจ้าหน้าที่สถานฑูต เข้ามาร่วมในการสอบสวน ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดราชประสงค์และระเบิดที่ท่าเรือสาทรหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ มณฑลทหารบกที่ 11 หรือ มทบ.11
ผู้เช่าอพาร์ตเมนต์เผยไม่เคยพบต่างชาติต้องสงสัยบึ้ม
ชายผู้พักอาศัยภายในอพาร์ตเมนต์ ย่านหนอกจอก ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์เดียวกับที่พบผู้ต้องสงสัยระเบิด เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นนักศึกษา เช่าห้องพักที่ชั้น 2 มานานกว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่บุคคลที่เช่าพักอพาร์ตเมนต์แห่งนี้จะเป็นนักศึกษาและเป็นวัยทำงานบ้างเล็กน้อย ซึ่งจะค่อนข้างเงียบ และไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก และในช่วงที่ผ่านก็ไม่เคยพบชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยหรือมีสิ่งผิดปกติใดๆ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพบตำรวจเข้ามาจับกุมผู้ต้องหาและยึดระเบิดได้ที่พักแห่งนี้ก็รู้สึกตกใจมาก
ส่วนการเข้าพักที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อติดต่อเช่าพัก ในราคาห้อง เดือนละ 2,000 ถึง 2,500 บาท และหากจะเข้าภายในอาคารก็มีระบบรักษาความปลอดภัยจะต้องใช้คีย์การ์ดด้วย รวมถึงต้องแจ้งเจ้าของหอพัก หากจะนำบุคคลภายนอกเข้ามาพักอาศัย
ค้นห้องเช่าชายต้องสงสัยบึ้ม-ยึดของกลางอื้อ
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยเก็กูวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี และกองพิสูจน์หลักฐาน 4 หน่วยงานสนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจค้น อพาร์ตเมนต์ 4 ชั้น แห่งหนึ่ง ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 โดยได้เข้าตรวจค้นห้องเลขที่ 404,409,410,411,412 ซึ่งเป็นห้องเช่าอาศัยของ นาย AHEMET MEHMMET EMIN AYSE ชายต้องสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงเหตุระเบิดราชประสงค์ โดยเริ่มเช่าตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2557 ทั้งนี้พบของกลางทั้งหมด ได้แก่
1.เสื้อเชิ๊ต พบสารเกี่ยวกับระเบิด 1 กลุ่ม
2.เสื้อละหมาดเกี่ยวกับระเบิด
3.ลูกเหล็กกลม (ลูกปืน) บรรจุถุงพลาสติกทำเป็นแฟตแบนๆ
4.ถ่านไฟฉายหลายขนาด (กลมและเหลี่ยม)
5.อุปกรณ์สายไฟฟ้า หัวเชื่อม เทปพันสายไฟ
6.ไขควง กรรไกร
7.ถังแกลลอนบรรจุเคมีภัณฑ์ (ยังไม่ทราบชนิด)
8.กล่องกระดาษบรรจุเคมีภัณฑ์โซเดียมคาร์บอเนต
9.ท่อเหล็กต๊าปเกลียว 2ด้าน ขนาดต่างๆ พร้อมฝาครอบเหล็ก
10.ผ้าเย็บสำหรับพันรอบเอว ติดตีนตุ๊กแก
11.สายชนวนฝักแคสีชมพู ยาว 8 ซม. จำนวน 10 เส้น
ผบ.ตร.ยันจับชายตปท.โยงบึ้มมุ่งปมแค้นส่วนตัว
พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร นำกำลังเข้าบุกค้นและจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้ พร้อมของกลาง วัตถุระเบิดจำนวนมากในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านหนองจอก ซึ่งได้แจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พร้อมวัตถุระเบิด โดยก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่มีการสืบสวนสอบสวน โดยเชื่อว่ายังมีคนร้ายมากกว่า 10 คน มีทั้งที่หลบหนีอยู่ในไทยและออกนอกประเทศไปแล้ว โดยชายคนดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับหลายคน แต่ยังด่วนสรุปไม่ได้ว่าชายคนดังกล่าวนั้น เป็นคนเดียวกับผู้ต้องหาในภาพสเก็ตช์หรือไม่ เนื่องจากหน้าตาไม่เหมือนกัน
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนยืนยันว่า เกี่ยวข้องกับขบวนการก่อเหตุบริเวณแยกราชประสงค์ เพราะหลักฐานที่ตรวจยึดได้เป็นของกลางชนิดเดียวกัน ประเภทเดียวกัน คล้ายกัน ทำให้มั่นใจอย่างแน่นอน ยืนยันว่า มีข้อมูลของกลุ่มคนร้ายว่าเป็นใคร ทำกันเพื่ออะไร และกลุ่มนี้มีขบวนการที่ทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น พบพาสปอร์ตปลอมกว่า 100 เล่ม ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย จะทำให้คนร้ายไหวตัวทัน
สำหรับประเด็นการก่อเหตุ หลังจับกุมชายคนดังกล่าวได้ ทำให้ตัดประเด็นทิ้งได้เยอะแล้ว แต่ยังไม่อยากพูดว่าเกี่ยวข้องกับสาเหตุใด แต่ไม่น่าจะใช่กับเรื่องการก่อการร้ายข้ามชาติ แต่เป็นการโกรธแค้นส่วนตัว แก้แค้นแทนพรรคพวกที่ถูกจับกุม และเข้ามาอยู่ในไทยนานกว่า 1 ปีแล้ว
ส่วนผู้ต้องหาคนดังกล่าวขณะนี้อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร ตามมาตรา 44 และหากครบกำหนดระยะเวลาก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ส่วนที่ของกลางที่ยึดได้จากห้องพักของผู้ต้องหา ขณะนี้ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ.ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการให้สัมภาษณ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมประชุมกับทีมสืบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าเก็บภาพแต่อย่างใด
ตร.เชิญล่าม2สัญชาติช่วยสอบชายสงสัยบึ้ม
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ /พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยทีมสืบสวนสอบสวนทั้งตำรวจนครบาล สอบสวนกลาง และสันติบาล สอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ หลังพบว่าหลบไปอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ เรื่องจากต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ พร้อมทั้งมีการนำภาพถ่ายให้คนขับรถแท็กซี่ดูว่าเคยเห็นหรือไม่
โดยภายหลังการประชุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในส่วนของแท็กซี่คนดังกล่าวนั้นเป็นการเชิญมาให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น และตอนนี้ยังคงให้การสับสน ซึ่งต้องขอเวลาสักระยะก่อน สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับได้ที่อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก เบื้องต้นยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์แน่นอน และตอนนี้ได้เชิญล่าม 2 สัญชาติ ในจำนวนนี้มีชาวตุรกีมาช่วยทำการสอบปากคำแล้ว โดยจะเข้าไปทำการสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ โดยยืนยันว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นสัญชาติใด ส่วนห้องพักข้างผู้ต้องหาไปตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบตัว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนของชิ้นส่วนประกอบระเบิดที่พบยอมรับว่ามีจำนวนมาก แต่ยังประกอบไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าคนร้ายอาจเตรียมการก่อเหตุอีก สำหรับระเบิดแบบพลีชีพที่พบในห้องนั้น ยอมรับว่า ยังไม่เคยมีในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบชิ้นส่วนต่อไป
สำหรับผู้ต้องหาตามภาพสเก็ตซ์ที่มีการออกหมายจับนั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าเดินทางออกนอกประเทศแล้วหรือไม่ แต่ส่วนตัวอยากให้อยู่ในประเทศ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามจับกุม
ข่าวที่เกี่ยว ::::
สมยศส่งตร.แฝงตัวต่างชาติหาข่าวบึ้มเชื่อมีไทยร่วมตปท.
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=642357