ไทยควรพัฒนาทุกด้านเตรียมพร้อมAEC
กมธ.การเศรษฐกิจฯ สนช. ไทย ควรจะพัฒนาทุกด้านเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
พลอากาศเอกชนะ อยู่สถาพร ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวระหว่างการเสวนาโต๊ะกลม วิสัยทัศน์ ทิศทาง และอนาคตของประเทศไทย ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในบริบทของฝ่ายนิติบัญญัติ ว่า ภาพรวม ของการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ของประเทศไทยควรจะพัฒนาทุกด้าน ทั้งด้านสินค้า การบริการ การผลิต เพื่อส่งเสริมให้ประเทศเพื่อนบ้านมีความสนใจ ที่สำคัญ ควรคำนึงการส่งสินค้าเข้าออกรวมทั้งนักท่องเที่ยว ตามแนวชายแดน เนื่องการส่งออกตามแนวชายแดนเป็นปัจจัยสำคัญของไทยที่สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก รวมทั้งการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวตามแนวชายแดนด้วย
ด้าน นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรม และศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ทุกประเทศจะต้องเข้าใจความสัมพันธของอาเซียน ซึ่งจะทำให้อาเซียนเป็นอีกขั้วสำคัญของโลก ที่มีไทยเป็นศูนย์กลาง ในการค้าการลงทุนระดับโลก
วงเสวนาAECแนะสื่อนำเสนอลดขัดแย้ง
การเสวนาประชาคมอาเซียน การขับเคลื่อนของรัฐสภาสู่ความร่วมมือในภูมิภาค ในช่วงบ่ายมีการเสวนากลุ่มย่อย เรื่อง 'ประชาคมอาเซียน : โจทย์ด้านนิติบัญญัติโดยกลุ่มการก้าวทันอาเซียน สื่อสารมวลชนและอาเซียน ได้พูดคุยถึงบทบาทหลักของสื่อมวลชนในช่วงแรกของการเปิดประชาคมอาเซียน ว่า ควรลดการนำเสนอข่าวที่เพิ่มความขัดแย้ง และเน้นนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการสร้างความร่วมมือ ขณะที่เวทีกลุ่มย่อย เสาหลักประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมุมมองการพัฒนานโยบายกฎหมาย การจัดการความรู้ และวิจัย นายกิตติ วะสีนนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า กลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง คือ องค์ประกอบสำคัญ ที่ควรดึงเข้าร่วมกับอาเซียน เพื่อสร้างความเติบโตแบบคู่ขนาน
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการเปิดเสรี ต้องมีผลกระทบเพื่อแลกกับผลประโยชน์ในภาพรวมที่มีมากกว่า ซึ่งทางรัฐได้มีการเยียวยากับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่มองว่าการเจรจาหรือดำเนินการตามกรอบความตกลงต่างๆ นั้น ไทยจะต้องชัดเจนในแง่ของกฎหมายเชิงรุก ซึ่งทาง สนช. จะมีการพูดคุยในเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า เพราะในรัฐบาลสมัยนี้สามารถทำได้ทันที