สธ.เผยไข้เลือดออกคร่าชีวิตคนไทยแล้ว37ราย

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์ไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้น ตายแล้ว 37 ราย ขอให้ ปชช. ระวังและกำจัดพาหะยุงลาย
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกสูง คาดว่าตลอดปีอาจพบถึง 70,000 ราย รอบเกือบ 8 เดือนตั้งแต่มกราคม - 18 สิงหาคม 2558 มีผู้ป่วยสะสม 51,500 ราย มากกว่าปี 2557 ถึง 2 เท่า มีผู้เสียชีวิต 37 ราย พบผู้ป่วยมากที่สุดในภาคกลาง รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ ส่วนใหญ่พบในกลุ่มเด็กโต อายุ 10-14 ปี สาเหตุร้อยละ 80 เกิดจากถูกยุงลายที่อยู่ในบ้านกัด ที่เหลือเป็นยุงลายที่อยู่ตามสวน ยุงชนิดนี้มักหากินช่วงกลางวัน ผู้ที่เคยป่วยจากโรคนี้มาแล้วอาจป่วยซ้ำได้อีก กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รณรงค์ให้ประชาชนทำลายแหล่งลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก โรงพยาบาล เพื่อลดจำนวนยุงลายพาหะนำโรค และให้โรงพยาบาลทุกแห่งเข้มงวดการตรวจรักษาโรคไข้เลือดออกเพื่อป้องกันการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
ด้าน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อาการของโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หน้าแดง มีจุดเลือดที่ผิวหนัง มักจะไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกเหมือนไข้หวัด โรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ ต้องรักษาตามอาการ คือ เช็ดตัวลดความร้อน ให้ยาลดไข้ พาราเซตามอล ห้ามซื้อยาประเภทแอสไพรินหรือไอบูโปรเฟน มากินเองอย่างเด็ดขาด
การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีที่สุด คือ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยเก็บกวาดบ้านให้สะอาด เก็บขยะเศษภาชนะรอบ ๆ บ้าน ปิดภาชนะเก็บน้ำกินน้ำใช้ให้สนิท ไม่ให้เป็นแหล่งที่ยุงลายจะวางไข่