ผบ.ตร.เผยระเบิดสาทร-ราชประสงค์ชนิดเดียวกัน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย ระเบิดที่สาทร เป็นชนิดเดียวกับราชประสงค์ ยัน ไม่ใช่การก่อการร้าย มีการทำเป็นขบวนการ ด้าน หนุ่มออสเตรเลีย พบตร.หลังถูกแชร์โยงระเบิด ขณะ นิติเวชส่งศพแรกให้ญาติแล้ว

พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็น
ระเบิดชนิดไปป์บอมแบบเดียวกับที่พบบริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นการจุดชนวนด้วยไฟ มีความรุนแรง
ใกล้เคียงกัน พร้อม ยืนยันว่า เหตุระเบิดที่สาทร ไม่ใช่การก่อการร้าย แต่คนร้ายหวังให้ประเทศเสียหายในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจและท่องเที่ยว และยังเชื่อว่า คนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุที่แยกราชประสงค์ มีการทำเป็นขบวนการและมีคนไทยเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ มีพยานหลักฐานเพิ่มมากขึ้น และยังมั่นใจว่าผู้ต้องสงสัยในภาพจากกล้องวงจรปิด มีการแต่งกายอำพรางใบหน้าด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงยังไม่จำเป็นจะต้องพิจารณาใช้มาตรา 44 
มากำกับดูแล และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะถือเป็นปัญหาของคน

ทั้งประเทศ

หนุ่มออสเตรเลียพบตร.หลังถูกแชร์โยงระเบิด

นายซันนี่ วิลเลี่ยม เบิร์น ชาวออสเตรเลีย เข้าพบตำรวจ สน.ลุมพินี เพื่อยืนยันตัวว่าไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยคดีคนร้ายลอบวางระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์ หลังมีผู้นำข้อมูลการเข้าเมืองไทยและใบหน้า แชร์ในโซเชียลมีเดีย ว่า เป็นชายต้องสงสัยที่ใส่เสื้อสีเหลืองสะพายกระเป๋าเป้หลัง ที่ต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุระเบิดมาวางที่แยกราชประสงค์ ซึ่ง นายซันนี่ อยู่ระหว่างการสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ แต่เบื้องต้นได้ชี้แจงว่าตนเองเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และเป็นดารานักแสดง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างสอนภาษาให้กับลูกศิษย์

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จสิ้น นายซันนี่ ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน

นิติเวชส่งศพแรกเหยื่อบึ้มราชประสงค์ให้ญาติแล้ว

เจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ส่งศพ นายสุวรรณ สัตย์มั่น อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งถือเป็นศพแรกที่ออกจากสถาบันนิติเวชวิทยา ภายหลังจากเกิดเหตุ

นางศิริลักษณ์ ละอองนวล ป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนทราบจากหลานอีกคนที่ทำงานในศาลพระพรหม เช่นเดียวกันโทรไปบอกว่าหลานตนเสียชีวิต สภาพตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่มีอาการชักเกร็ง แพทย์พยายามช่วยเหลือแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้จนเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอประณามคนก่อเหตุที่มีความชั่วร้ายและรุนแรงกับครอบครัวของตนมาก ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวคนก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว ภายหลังจากนี้ตนจะนำร่างของหลานชายกลับไปตั้งสวดที่บ้าน จ.ราชบุรี เพื่อบำเพ็ญกุศลต่อไป

สำหรับบรรยากาศล่าสุดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยังคงมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มาติดต่อขอดูรูปถ่ายของศพที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสัญชาติใดอย่างต่อเนื่อง โดยมีคนจีนกลุ่มหนึ่งซึ่งเดินทางไปค้นหาญาติที่โรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลกลาง โดยมีความหวังว่าญาติของตนจะรอดชีวิต แต่ตลอดทั้งวันกลับไม่พบเบาะแสแต่อย่างใด จนล่าสุดได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อดูภาพถ่ายทางทีวีที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ พบว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นญาติของตน สร้างความโศกเศร้าและเสียใจแก่บรรดาญาติ ๆ จำนวนมาก 

ขณะที่บรรยากาศโดยรอบสถาบันนิติเวชวิทยา ยังคงมีบรรดาชาวไทยและต่างชาติ มาติดต่อขอรับศพรวมถึงดูภาพยืนยันผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่จนถึงขณะนี้สามารถส่งศพให้แก่ญาติกลับไปบำเพ็ญกุศลได้เพียง 2 ศพเท่านั้น เนื่องจากต้องอาศัยเวลาในการพิสูจน์ หากเป็นชาวต่างชาตินั้นต้องมีใบรับรองที่ออกจากสถานทูตในการติดต่อขอรับศพ ทำให้ญาติเกิดความไม่สะดวก

หนุ่มมาเลย์สุดเศร้ารับ5ศพครอบครัวเหยื่อบึ้ม

MR.NEOH HOCK GUAN อายุ 53 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตมาเลเซีย เดินทางมารับศพญาติ 4 ราย ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ คือ 1.MR.LEE TZE SIANG 33 ปี 2.MRS.LIM SAW GEK อายุ 49 ปี 3.Mr.NEOH JAI JUN อายุ 19 ปี และ 4.MS.LIM SOO SEE อายุ 52 ปี

โดย MR.NEOH กล่าวผ่านล่ามว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับครอบครัว รวม 7 คน ไปสักการะท้าวมหาพรหมซึ่งมีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาไหว้เป็นจำนวนมาก โดยขณะตนกำลังจะปักธูปลงในกระถาง เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พอได้สติก็เห็นแสงเพลิงภายในรั้วของศาลด้านถนนเพลินจิต ใกล้แยกราชประสงค์ เห็นร่างของ MR.LEE TZE SIANG เป็นลูกเขย กระเด็นจากแรงของระเบิดมาถูกตนล้มลง มีเลือดออกจากศีรษะจำนวนมาก ตนพยายามเรียกแต่ลูกเขยไม่รู้สึกตัวแล้วและพยายามมองหาญาติคนอื่น ๆ พบ Mr.NEOH JAI JUN ลูกชายสภาพถูกไฟคลอกมีรอยไหม้เกรียมตามลำตัว และมองหาลูกสาวอีกคน MS.NEOH EE LING อายุ 32 ปี ตั้งครรภ์ 5 เดือน ส่วนญาติไม่พบ ก่อนที่ตนและลูกสาวจะขึ้นถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ทราบว่าอาการปลอดภัยแล้ว

MR.NEOH เปิดเผยต่อไปอีกว่า วันนี้จึงเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมั่นใจว่า ลูกชายและลูกเขยเสียชีวิต และนำหลักฐานยืนยันตัวบุคคลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า MRS.LIM SAW GEK ภรรยา และ MS.LIM SOO SEE เป็นพี่สาวภรรยาเสียชีวิตด้วย ส่วนสมาชิกครอบครัวอีกคน คือ ด.ญ.LEE JIN YUAN อายุ 4 ขวบ หลานสาว ทราบว่าเสียชีวิตเช่นกัน ศพอยู่ที่แผนกนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

"รู้สึกสูญเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงลูกสาว และหลานที่อยู่ในครรภ์ของลูกสาว ซึ่งไม่รู้ว่ารับการกระทบกระเทือนหรือไม่" MR.NEOH กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ผบ.ตร.เชื่อว่ามีคนไทยร่วมเหตุบึ้มราชประสงค์

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 และสถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ์ ทหาร เทศกิจ และอาสาสมัคร ประมาณ 100 นาย กำชับให้เข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัย และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า กรณีควบคุมตัวชาวต่างชาติที่สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องพาสปอร์ต เป็นการควบคุมตัวให้ดำเนินเรื่องกลับประเทศให้เรียบร้อย ไม่ใช่คนร้าย ซึ่งจากภาพในโทรทัศน์วงจรปิดถือว่ามีความชัดเจนขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้าย ทั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว และน่าจะมีคนไทยร่วมก่อเหตุด้วย พร้อมฝากประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบผู้ต้องสงสัยตามที่เผยแพร่ให้รีบแจ้งเพื่อไม่ให้คนร้ายก่อเหตุพื้นที่อื่นอีก และไม่ให้ประเทศชาติเสียภาพลักษณ์ รวมถึงไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจ ส่วนการลงพื้นที่ย่านเยาวราชครั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงชื่นชอบประเทศไทย พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาท่องเที่ยวย่านเยาวราช อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เป็นประจำอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนอื่นได้แบ่งกันลงพื้นที่ที่เป็นย่านการท่องเที่ยวอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

ประวุฒิตรวจแยกราชประสงค์ เชื่อมีคนไทยร่วมปาบึ้ม

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมกับเปิดเผยถึงประเด็นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่าเหตุระเบิดทั้งที่สะพานสาทรและแยกราชประสงค์มีคนไทยเข้าร่วมในขบวนการ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าคนที่ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่ามีคนไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากชิ้นส่วนในการประกอบระเบิดสามารถหาซื้อได้ในเมืองไทย

ขณะที่การติดตามตัวผู้ต้องสงสัยในภาพวงจรปิด มีความชัดเจนมากขึ้น ว่าชายที่สวมเสื้อสีเหลืองที่ปรากฏในภาพวงจรปิดน่าจะเป็นคนร้ายที่นำระเบิดมาวาง เพราะจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดอย่างละเอียด พบว่าชายคนนี้นำกระเป๋าสะพายมาวางไว้ใกล้จุดเกิดเหตุและเดินจากไปประมาณ 3 นาที ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด