นายกฯ ปัด คสช. แทรก กมธ. รธน. อย่าห่วงตั้งผบ.ตร.

นายกฯ ปัด คสช. แทรก กมธ. รธน. อย่าห่วงตั้งผบ.ตร.

นายกฯ ปัด คสช. แทรก กมธ. รธน. อย่าห่วงตั้งผบ.ตร.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ปัดแทรกแซงกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ย้ำรัฐบาลเดินตามโรดแมป ขออย่ากังวลตั้งผบ.ตร.คนใหม่ ขณะเข้มเรือประมงปัดรังแก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ปฏิเสธถึงกระแสข่าวเรื่อง คสช. กดดันการทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่า คสช. ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง หรือล้วงลูกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมา ต้องการให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และแสดงความคิดเห็น และเห็นว่าต้องมีกลไกให้ประเทศสงบสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขออย่าดึงตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องมากนัก 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ชี้แจงและสร้างความเข้าใจต่อคณะเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก กว่า 17 ประเทศ ในเรื่องต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลยังคงเดินตามโรดแมป


นายกฯ ขออย่ากังวลตั้งผบ.ตร.คนใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึง การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่จะมีการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมาการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ในวันที่ 14 สิงหาคม นี้ ว่า ขออย่ากังวลในเรื่องดังกล่าว โดยทัศนะส่วนตัวเห็นว่า จะต้องเป็นตำรวจของประชาชน มีคุณธรรม จริยธรรม ความอาวุโส และเรื่องอื่น ๆ ประกอบกัน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลด้วย ซึ่งคาดว่า ในวันที่ 14 สิงหาคม นี้ จะมีความชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีรายชื่อของผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่นานแล้ว เนื่องจากทหารมีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว เพราะทุกอย่างต้องวางพื้นฐานไว้ ไม่ใช่จะเลือกใครก็ได้

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เรื่องของการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ยังคงมีการดำเนินการอยู่ตามขั้นตอน โดยให้กระทรวงยุติธรรมติดตามในเรื่องนี้อยู่ และขออย่าให้ความสำคัญมากนัก


นายกฯแจงจำเป็นออกม.44คุมอุปกรณ์ประมง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ในกรณีที่มีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ในการห้ามครอบครองเครื่องมือประมงต้องห้ามตามคำสั่ง รวมถึงให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดหรือทำลายเรือและเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมายนั้น จะต้องมีความเข้มงวด และไม่ได้ต้องการที่จะไปรังแกใคร โดยจะต้องไปหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากเมื่อจำนวนเรือมีมากเกินไปก็จะมีการลักลอบไปประมงนอกน่านน้ำ ทำให้โดนจับกุมและเข้ากฎเกณฑ์ของ IUU จึงต้องมีการจัดระเบียบไม่เช่นนั้นจะกระทบกับภาพรวมของประเทศ ส่วนการหารือร่วมกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน นั้น ทางนักธุรกิจพร้อมร่วมลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นในโอกาสต่อไป และไม่ห่วงในเรื่องทาง
การเมือง อย่างไรก็ตาม ยินดีที่ทางสหรัฐอเมริกาได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยพร้อมพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การจ่ายค่าเสียหายให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี กรณีก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จำนวน 9,000 ล้านบาท นั้นถือว่าเป็นบทเรียน ซึ่งทางรัฐบาลนี้ได้ขอต่อรองลดการจ่ายค่าเสียหายไปแล้ว


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล