พม่าหวั่นฝนตกซ้ำเติมน้ำท่วม-ยอดดับพุ่ง46

ทางการเมียนมา หวั่นฝนตกหนักซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วม เสียชีวิตแล้ว 46 ราย ขณะที่ เต็ง เส่ง ลงพื้นที่ ยันเร่งช่วยปชช. - สถานทูตเผยคนไทยยังไม่กระทบ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการเมียนมา แสดงความกังวลว่า อาจจะมีฝนตกหนักลงมาอีก ซึ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมให้แย่ลงไปอีก ขณะที่ กระทรวงปศุสัตว์ ประมงและการพัฒนาชนบท ประกาศว่า หากมีความจำเป็น ทางกระทรวงจะร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติและองค์กรอื่น ๆ กระจายความช่วยเหลือให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ ทั้งนี้ เมียนมา กำลังจะจัดการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ ขณะที่ กระทรวงการเกษตรและชลประทานของเมียนมา รายงานว่า มีพื้นที่เกษตรกรรมมากกว่า 2.5 ล้านไร่ ได้รับความเสียหาย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของทางการเมียนมา เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 46 คน ซึ่ง องค์การสหประชาชาติ เชื่อว่าผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเข้าถึงผู้ประสบภัยซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างทั่วถึง

ด้าน สื่อของทางการพม่า รายงานเว่า เกิดเหตุดินถล่มในรัฐชิน ซึ่งอยู่ทางด้านใต้ของเขตสะกาย ทำให้บ้านเรือน 700 หลังใน ฮาคา เมืองเอกของรัฐดังกล่าว ได้รับความเสียหาย รวมทั้งถูกตัดขาดจากบริเวณอื่น ๆ โดยรอบ นอกจากนั้น มีประชาชนกว่า 5,000 คน ในอีกเขตต้องอพยพไปอยู่ในค่ายบรรเทาทุกข์ ขณะที่ รัฐยะไข่ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตก และมีผู้พลัดถิ่นราว 140,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมโรฮีนจา เป็นอีกพื้นที่ซึ่งกำลังประสบอุทกภัยร้ายแรง

ขณะที่ พลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยหลายแห่ง พร้อมประกาศให้คำมั่นว่าทางการเมียนมา จะเร่งช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถ หลังผู้นำเมียนมาถูกตำหนิจากหลายฝ่ายที่มองว่า การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า และยังเข้าไม่ถึงพื้นที่ห่างไกล เบื้องต้น มีรายงานผู้เสียชีวิตจากวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 47 คนแล้ว ประชาชนกว่า 200,000 ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บ้านเรือนกว่า 700 หลัง ถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย รวมถึงไร่นาอีกกว่า 2.4 ล้านไร่ จมอยู่ใต้กระแสน้ำ 

ทางด้าน สหประชาชาติ ประเมินว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากระบบสื่อสาร และระบบสาธารณูปโภคในเมียนมาไม่มีประสิทธิภาพดีเพียงพอทำให้ไม่อาจประเมินความเสียหายในภาพรวมได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ บางแห่งยังได้รับอิทธิพลจากพายุไซโคลนโกเมนที่พัดถล่มบังกลาเทศเมื่อ 4 วันก่อน ซึ่งเคลื่อนตัวมายังเมียนมา ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงอีก โฆษกประจำสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า กังวลต่อสถานการณ์ในครั้งนี้อย่างมาก และคณะประเมินสถานการณ์ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้ เนื่องจากเส้นทางสัญจรถูกตัดขาดเกือบทั้งหมด และแม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลงบ้างแล้วในบางพื้นที่ แต่ระดับน้ำแม่น้ำอีกหลายสายยังคงเพิ่มขึ้นจนไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่อื่นๆ เพิ่ม ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้งได้ตรวจสอบแล้วว่า ยังไม่มีรายงานคนไทยในเมียนมาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป