นายกฯสั่งช่วยอส.ยะลาถูกยิงเจ็บ18-กอ.รมน.รู้ตัวแล้ว

'สรรเสริญ' เผย นายกฯ ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ชายแดนใต้ สั่งช่วย อส.เจ็บ 18 ราย เหตุถูกลอบยิงถล่มฐานปฏิบัติการให้ดีที่สุด พร้อมสั่งดูแลประชาชน ขณะที่ ผบ.ทบ.สั่งจับคนร้ายยิงฐานยะลาปล้นปืน - กอ.รมน.รู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัว อส. ทั้ง 18 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกผู้ก่อความไม่สงบ ลอบยิงถล่มฐานปฏิบัติการ ที่ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อคืนที่ผ่านมา และสั่งการให้ดูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทุกคนอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทุกภาคส่วน ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน โดยคนไทยทุกคนซาบซึ้งใจในความเสียสละและมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคน

ขณะเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า แม้รายงานการก่อเหตุในพื้นที่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังเจ้าหน้าที่ปรับยุทธวิธีการทำงาน รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการแจ้งเบาะแสมากขึ้น แต่การเฝ้าระวังการก่อเหตุและการวางกำลังคุ้มกันดูแลประชาชนในพื้นที่ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน

 

ผบ.ทบ.สั่งจับคนร้ายยิงฐานยะลาปล้นปืน

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ได้รับทราบการรายงานเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงโจมตีฐานที่ตั้งชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เหตุเกิดเมื่อ 31 ก.ค. 58 เวลา 01.15 น. ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย แยกเป็นบาดเจ็บสาหัส 6 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มคนร้ายอาศัยการอำพรางเป็นเจ้าหน้าที่เข้าประชิดจู่โจมที่ตั้งฐานในยามวิกาล จนเกิดการยิงต่อสู้กัน และสามารถแย่งชิงอาวุธของทางราชการไปได้จำนวนหนึ่ง ขณะนี้ พอทราบบุคคลที่น่าจะชักชวนสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้าร่วมการก่อเหตุครั้งนี้บ้างแล้ว

ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช ได้กล่าวชมเชยเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลในครั้งนี้ ที่ได้พยายามต่อสู้ตามขีดความสามารถด้วยอาวุธเท่าที่มีอยู่ และได้สั่งการให้หน่วยรับผิดชอบพื้นที่จนถึงระดับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัด เร่งติดตาม จับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้ง นำอาวุธปืนของทางราชการกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้มีการทบทวนแผนเผชิญเหตุของเจ้าหน้าที่ อส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่ห่างไกลให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย