ตร.ตรวจค้นสถานบันเทิงใกล้ม.รังสิตตามประกาศคสช.

ตร.ตรวจค้นสถานบันเทิงใกล้ม.รังสิตตามประกาศคสช.

ตร.ตรวจค้นสถานบันเทิงใกล้ม.รังสิตตามประกาศคสช.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตรวจสถานบันเทิงย่านรังสิต ตามประกาศ คสช. ที่ให้ควบคุมการเปิดสถานบริการใกล้สถานศึกษาและหอพัก

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบร้านอาหารที่เปิดให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาย่านรังสิต ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 22 ที่ให้ควบคุมการเปิดสถานบริการใกล้สถานศึกษาและหอพัก

พลตำรวจโท ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พบร้านอาหารในลักษณะดังกล่าวเปิดอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งห่างไม่เกิน 300 เมตร และเปิดให้บริการเกินเวลา รวมทั้งมีเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าใช้บริการกว่า 30 คน ในจำนวน 2 ร้าน จึงสั่งให้ดำเนินการปิดร้านถาวร เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

พลตำรวจโท ประวุฒิ ยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยได้เข้ามาตักเตือนก่อนแล้ว แต่ยังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข จึงมีคำสั่งให้ปิดร้าน และหากร้านที่อยู่ในระยะไม่เกิน 300 เมตร จากสถานศึกษาและหอพัก ตำรวจจะดำเนินการเข้าตรวจสอบอยู่เป็นระยะ หากยังพบพื้นที่ใดมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้กับสถานศึกษา และตำรวจในพื้นที่ปล่อยปละละเลย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ดำเนินการตามวินัย และทางอาญา

เบื้องต้น แจ้งข้อหาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด อนุญาตยินยอมให้เด็กอายุต่กว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ จำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และอนุญาตให้ผู้ใช้บริการสูบบุหรี่ในร้าน

 

ตร.งัดมาตรการเด็ดขาดจัดการร้านเหล้า,เด็กแว้น

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ภายหลังที่ คสช. ได้มีคำสั่งนำมาตรา 44 มาแก้ปัญหาการแข่งรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการที่ใกล้กับสถานศึกษา ว่า การดำเนินการต่อจากนี้จะมีการตรวจสถานบริการที่ตั้งใกล้กับสถานศึกษามากเกินไป หากพบว่ายังมีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ก็จะขอเพิกถอนใบอนุญาตทันที ซึ่งหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบร้านสถานบริการช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ก็พบบางร้านปิดไปแล้ว และหลายร้านก็มีระเบียบมากขึ้น โดยกฎหมายมาตรา 44 นี้มี หากพบจำหน่ายสุรา หรือพบเยาวชนมั่วสุมยาเสพติดในร้าน ในกรณีที่อยู่ห่างจากสถานศึกษาจะสั่งปิดนาน 5 ปี แต่ถ้าเป็นร้านที่อยู่ในระยะใกล้ ก็จะสั่งปิดตลอดไป ไม่สามารถเปิดให้บริการได้อีก

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้กำชับตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบและทำความเข้าใจ กำหนดมาตรการต่างๆ กับผู้ประกอบการว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง และหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษอย่างไร คาด 1-2 วันทุกคนจะเข้าใจชัดเจน และปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

ส่วนกรณีเยาวชนแข่งรถบนทางสาธารณะ ได้มีมาตรการเด็ดขาด 2-3 ข้อ อาทิ หากพบขณะมั่วสุมรวมตัวกัน ก็สามารถจับกุม อายัดรถได้ทันที พร้อมกับเรียกผู้ปกครองมาตักเตือน และถ้ากระทำผิดครั้งที่ 2 ผู้ปกครองจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท ส่วนร้านขายอุปกรณ์แต่งรถเพื่อนำมาแข่ง ก็มีโทษเช่นกัน คือจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ปกครองที่บุตรหลานออกจากบ้านต้องมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ทราบว่าเด็กออกจากบ้านไป ไม่สามารถควบคุมว่ากล่าวตักเตือนได้ กรณีนี้ตำรวจก็จะร่วมมือกับ พม. หารือในการรับเด็กเหล่านี้มาดูแล เพื่อลดการกระทำผิด และป้องกันปัญหาดังกล่าว


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล