กมธ.จ่อชงกม.ลูกปมปฏิรูปคู่รธน.ย้ำคกก.ปรองดองไม่สืบอำนาจ

'ชูชัย' แจงเหตุส่งก.ม.ลูกปฎิรูปคู่รธน. ให้ สปช. ต้องการปรับสาระ ป้องกันเหตุวุ่นวายในอนาคต ยัน คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและสร้างความปรองดองไม่สืบทอดอำนาจ
น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 6 ในฐานะประธานอนุกมธ.ศึกษาเตรียมการจัดทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูป กล่าวถึง เหตุผลที่กมธ.ยกร่างฯ กำหนดให้ต้องยื่นร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูปให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พิจารณาควบคู่กับร่างรัฐธรรมนูญว่า ได้รับคำขอแก้ไขจาก สปช. ที่ต้องการให้ปรับเพิ่มสาระ ขณะที่คณะรัฐมนตรีกังวลกรณีหากขีดเส้นกำหนดเวลาปฏิรูปเพียงระยะเวลา 1-2ปี อาจเกิดสถานการณ์ที่นำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองต่อไปได้ อีกทั้งการมีองค์กรใหม่ แม้จะมีความจำเป็น แต่อาจเป็นภาระต่องบประมาณ และอาจเกิดความกังวลต่อรัฐบาลหน้า ทั้งนี้ ในหมวดการปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง ได้ข้อยุติปรับแก้ให้เหลือ 5 มาตรา ที่มีเป้าหมาย ทิศทาง หลักการสำคัญชัดเจน ส่วนสาระไปบัญญัติไว้ในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูป ซึ่งจะมีเวลาพิจารณาได้ละเอียดรอบคอบมากกว่า ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า จะเกิดการปฏิรูปได้จริง จึงมีกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างอนุกมธ.และกมธ.ปฏิรูป 18 ด้านของ สปช.
ทั้งนี้ ได้ชี้แจงเหตุผลที่ร่างรัฐธรรมนูญและร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูป ต้องส่งถึงมือประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นฉบับประชาชนและรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นฉบับประชามติ ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นฉบับปฏิรูปที่ผ่านการออกเสียงประชามติ ดังนั้น ประชาชนก็ควรรับทราบ เพราะประชาชนถือเป็นพลังสูงสุดที่จะทำให้การปฏิรูปประสบความสำเร็จสูงสุด รวมถึงทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ เป็นแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในสังคม ซึ่งหากเห็นชอบผ่านการออกเสียงประชามติด้วยความมั่นใจ ก็จะเป็นประโยชน์ให้ประเทศเดินหน้าไปได้ หากเป็นไปตามกลไกที่วางไว้ก็จะเห็นอนาคตประเทศ
พร้อมกันนี้ ขอยืนยันว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและสร้างความปรองดอง ที่จะมีขึ้นในอนาคต เพื่อมาทำหน้าที่ปฏิรูปสานต่องานจาก สปช. สามารถแก้ปัญหาของบ้านเมือง และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็ไม่มีความจำเป็น ดังนั้น จึงไม่ใช่การสืบทอดอำนาจตามที่สังคมหวาดระแวงอย่างแน่นอน