รมว.ยธ.ถกจัดระเบียบสถานศึกษาขู่ปิดแน่หากผิด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมจัดระเบียบรอบสถานศึกษาทั่วประเทศ ขู่ปิดใบอนุญาตสถานประกอบการไม่มีใบอนุญาต

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ แถลงผลการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการจัดระเบียบรอบสถานศึกษา ด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) แก่หัวหน้าส่วนราชการและผู้ปฏิบัติงานในโครงการทั่วประเทศ

โดยในที่ประชุมได้มีข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบรอบสถานศึกษา 4 เรื่องหลัก ในส่วนของสถานศึกษาพยายามให้มีการคัดแยกเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม ตั้งแต่เด็กดีไปจนถึงกลุ่มเสี่ยง เพื่อหามาตรการในการแก้ไข ซึ่งปัจุบันมีสถานศึกษากว่า 4,167 แห่งทั่วประเทศ โดยในส่วนของสถานบริการร้านเหล้าใกล้กับสถานศึกษาได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย ไปกำหนดและจัดโซนนิ่งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้ชัดเจน หากพบว่า สถานบริการใดไม่มีการจดทะเบียนให้ถูกต้องก็ให้ดำเนินการปิด ส่วนสถานบริการใดที่มีการเพิกถอนใบอนุญาตหรือถูกระงับ แต่ไปเปลี่ยนชื่อใหม่ ให้ไปดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 60 วัน

ส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติดกำหนดให้มีการจัดศูนย์บำบัดการติดยาเสพติด เปิดในทุกอำเภอ โดยใช้กระทรวงสาธารณสุขเป็นศูนย์กลาง โดยใน กทม. มี 17 แห่ง และจัดให้มีศูนย์บำบัดในทุกอำเภอ เริ่มดำเนินการคัดแยกเด็กเข้าสู่การบำบัดโดยเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ ส่วนสถานศึกษาหรือหอพักใด มีการปล่อยปละละเลยให้มีการมั่วสุมหรือเสพยาเสพติด อาจถึงขั้นมีคำสั่งให้ปิด

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ทุกจังหวัดลงพื้นที่ไปสำรวจ เพื่อจัดพื้นที่เชิงบวก สำหรับเป็นสถานที่พักผ่อน ทำกิจกรรมสันทนากาาร หรือสนามเด็กเล่นปลอดยาเสพติด โดยให้ดำเนินการให้เรียบร้อย แต่ไม่ถึงกับต้องจัดพื้นที่แข่งรถ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า การดำเนินการต่าง ๆ เป็นการระดมความร่วมมือบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขรอบสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะในสถานศึกษาที่อยู่ในเขตเมืองของแต่ละจังหวัด โดยใช้รูปแบบการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการป้องกันยาเสพติดระดับพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีการนำร่องดำเนินการในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา และอาชีวศึกษา รวม 89 แห่ง ใน 77 จังหวัด