กรมชลฯวางแผนน้ำใหม่เน้นเพียงพออุปโภคบริโภค

กรมชลฯวางแผนน้ำใหม่เน้นเพียงพออุปโภคบริโภค

กรมชลฯวางแผนน้ำใหม่เน้นเพียงพออุปโภคบริโภค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองอธิบดีกรมชลประทาน วางแผนบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค หลังพบน้ำในเขื่อน มีปริมาณน้อย

นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศไทย ว่า ปัจจุบันเหลือน้ำใช้เพียง 8,500 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 18 แม้ช่วงนี้จะมีฝนตกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบน แต่พบว่าปริมาณน้ำยังน้อย เช่น เขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ เพราะปริมาณน้ำไม่ไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อยกว่าที่ใช้ทุกวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ 22 จังหวัด รวมทั้งวางแผนยืดเวลาการใช้น้ำไม่ให้ขาดแคลน และวันนี้ (14 ก.ค.) จะเสนอปรับลดการระบายน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ ภูมิพลสิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนที่นักวิชาการบางส่วนเสนอแนวคิดปันส่วนน้ำ เพื่อให้เพียงพอกับการใช้อุปโภคบริโภค

รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า เป็นอีกวิธีที่สามารถประหยัดน้ำได้ แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ ประชาชนและเกษตรกร ต้องช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อให้มีเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค

ล่าสุด ( 13 ก.ค. 58) ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 3,959 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 159 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 3,180 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 330 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 11 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี  มีปริมาณน้ำ  44 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ  587  ล้านลูกบาศก์เมตร

สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลัก 4 แห่ง (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ยังอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก คงเหลือน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกทางตอนบนยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ

สำหรับในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในการผลิตน้ำประปา โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ลพบุรี นั้น เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองส่งน้ำชัยนาท – ป่าสัก เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลเข้าคลองไม่เพียงพอต่อความต้องการ กรมชลประทาน โดยสำนักชลประทานที่ 10 จึงได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก พร้อมระดมเครื่องจักรเครื่องมือ เข้าไปเปิดทางน้ำให้น้ำไหลเข้าคลองส่งน้ำสะดวกมากขึ้น พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือจากพื้นที่ต้นคลองให้งดสูบน้ำ เพื่อให้ปริมาณน้ำไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ให้สามารถสูบน้ำผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ วอนทุกภาคส่วนร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด ร่วมใจกันฝ่าวิกฤติภัยแล้งในปีนี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล