นายกฯวอนยุติขัดแย้งเร่งแก้ประมงลุยสางปัญหานร.ตีกัน

นายกรัฐมนตรี ลั่นดูแลปชช.ทั่วถึงเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก วอนยุติขัดแย้ง ขอ น.ศ.อย่าทำผิด ยันยึดกฏหมายมุ่งประชาธิปไตย จัดเลือกตั้งเมื่อพร้อม เร่งแก้ประมง ลุยสางปัญหา น.ร.ตีกัน - ชี้งบราชการล่าช้าสั่งเร่งเบิกตามเป้าดันเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ขอขอบคุณข้าราชการทุกคนที่ดูแลให้การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ผ่านไปได้ด้วยดี  ทำให้มีกำลังใจในการจะทำหน้าที่เพื่อทุกคน เชื่อหากทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน รักสามัคคีกัน ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ส่วนรวมก็จะได้ผลประโยชน์

ทั้งนี้ รัฐบาลยังยืนยันว่าจะดูแลพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ให้เกิดความเท่าเทียม ทั่วถึง ทุกคน ทุกภาค ต้องไม่มีการแบ่งแยกโดยเด็ดขาด พร้อมกับฝากข้าราชการทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นช่วยกันทุ่มเท เสียสละ สร้างความเข้มแข็งเพื่อเดินหน้าประเทศ และจะทำแบบเดิม ๆ ด้วยการเมืออย่างเดียวไม่ได้ และความขัดแย้งในพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศจะต้องยุติให้ได้โดยเร็ว และประชาชนก็ต้องทำความเข้าใจว่าประชาธิปไตย ที่แท้จริง ว่าเป็นอย่างไร เลิกนึกถึงประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือของคนใดคนหนึ่ง ขอให้เข้มแข็งแล้วทุกอย่างก็จะกลับมาสู่ประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง ภายใต้กฎหมาย การสร้างสังคมที่มีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งต้องใช้เวลา ไม่ได้สร้างง่าย ๆ ภายในวันสองวัน เพื่อจะสร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืนของประเทศให้ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของความมีเสรีภาพ การเป็นประชาธิปไตย ต้องมีความพร้อมในหลายเรื่องทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และอำนาจต่าง ๆ ต้องไม่ซับซ้อน จนทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติราชการ หรือบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งทั้งหมดกำลังแก้ไขอยู่ในการปฏิรูป และการแก้ไขกฏหมายของ สนช. โดยเชื่อว่า กฎหมายจะทำให้ทุกอย่างสงบลงได้ 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า จะไม่ไปตำหนิ เพราะไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ถือว่าเป็น "พลังบริสุทธิ์" ซึ่งน่าที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้อีกในอนาคต แต่ก็ขอให้ใช้ในระยะเวลาที่ถูกต้อง อย่าไปเชื่อมั่นว่าใครมาบิดเบือน ยอมรับไม่เคยปฏิเสธคำว่าประชาธิปไตย ไม่เคยปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่ในการเลือกตั้ง หรือในการมีประชาธิปไตยที่ผ่านมามีปัญหา ก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องไปสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ต้องไปเสียเวลากับการควบคุมอำนาจ ทำให้เกิดประโยชน์กับชาติน้อยกว่าที่ควรจะเป็น พร้อมย้ำทิ้งท้าย การเลือกตั้งจะทำเมื่อพร้อม และสถานการณ์ต่าง ๆ เดินตามโรดแมป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นห่วงเรื่องโลกอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย เพราะมีการกระจายข่าวสารรวดเร็ว ต้องหามาตรการปลูกจิตสำนึก เฝ้าระวัง เพราะสงสารเด็ก ๆ หากปล่อยปลูกฝังให้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่อไปเด็กจะก้าวร้าว

ทั้งนี้ยังกล่าวถึง การรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ว่า ประเทศไทยนั้นยังขาดอีกหลายด้าน โดยเฉพาะแรงงานมีฝีมือแรงงานระดับล่างที่ใช้แรงอย่างเดียว แรงงานประมง จำเป็นต้องนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา ดังนั้น ทั้งรัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการก็ได้รณรงค์ ในเรื่องของการส่งเสริมการศึกษาสายอาชีพ อาชีวะ ให้มีงานทำ มีฝีมือ มีรายได้ก่อนรับปริญญา หาเงินก่อน เลี้ยงดูพ่อแม่ ไม่เป็นภาระผู้ปกครอง แต่ก็ยังเป็นกังวล เกี่ยวกับเรื่องนักเรียนตีกัน เด็กแว้น ซึ่งกำลังหามาตรการ แก้ปัญหาดังกล่าวให้ได้อย่างเด็ดขาด 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานราชการ ว่า ในเรื่องของการงบประมาณการเบิกจ่ายเพื่อดำเนินโครงการของข้าราชการแต่ละหน่วยงาน ขณะนี้ยังมีความล่าช้าอยู่ ดังนั้น ขอฝากให้ ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานดูแลและติดตาม ว่าติดขัดปัญหาในส่วนใด ซึ่งงบประมาณไตรมาส 1-2-3 โดย ครึ่งปีแรก งบประมาณอนุมัติออกไปแล้ว แต่การบริหารจัดการ การใช้จ่ายของแต่ละหน่วยงานยังขยับได้แค่ถึงขั้นการเบิกงบประมาณและค่อนข้างที่จะมีปัญหาอยู่ยังไม่ถึงขั้นที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งไม่ทราบติดขัดตรงไหน และหากไม่สามารถเบิกจ่ายได้ก็จะมีความกังวลเพราะงบของราชการเป็นงบส่วนหนึ่งที่จะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ได้กล่าวไว้แล้วว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ไม่สามารถเบิกจ่ายได้จะนำงบประมาณมาบรรเทาความ

เดือดร้อนในส่วนอื่น เอามาใช้อย่างอื่น ที่เป็นความเดือดร้อน เนื่องจากได้มีการสั่งการไปแล้วไม่สามารถใช้จ่ายได้ก็นำกลับมา อย่างไรก็ตาม ข้าราชการทุกภาคส่วนต้องร่วมมือทำหน้าที่เดินหน้าประเทศชาติต่อไปให้ได้ และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติให้เร็วขึ้น ด้านเศรษฐกิจความสามารถในการแข่งขันไทยนั้นมีโอกาสสูง แต่ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ก่อนที่โอกาสจะน้อยลง การส่งออกน้อยลงเพราะว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไม่ค่อยมี นวัตกรรมต่าง ๆ ก็น้อย แรงงานสูง ค่าแรงค่าต้นทุนสูง สิทธิ GSP ก็ไม่ได้

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหาเรือประมงในวันนี้นั้น ขอฝากให้สมาคมประมงสมาคมสินค้า การส่งออก สมาคมอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว รวมถึงสมาคมสื่อ ร่วมกันแก้ไขปัญหา ในเมื่อมีเรือจำนวนหนึ่งที่วิ่งออกทะเลได้ ส่วนหนึ่งวิ่งไม่ได้ ส่วนที่วิ่งได้บอกว่าขาดแคลนแรงงาน ให้เอาแรงงานมาผสมกันแบ่งสัดส่วนให้คนที่ไม่มีอาชีพขณะนี้ ตรงนั้นก็ลดลงหน่อยเหมือนต่างประเทศที่ได้มีการปฏิบัติกัน ลดรายได้ โดยที่ไม่ต้องลดแรงงาน ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ควรนำไปร่วมกันพิจารณาแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่เรียกร้องอย่างเดียว ทั้งนี้ ขอให้ทุกสมาคมร่วมกันจัดระเบียบโดยไม่ต้องบังคับใช้กฎหมายเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรให้พูดคุย และแก้ไขไปเป็นเรื่องๆ ปัญหาประมงเป็นปัญหาที่น่าห่วง ซึ่งจะต้องดูแลกันต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร ในส่วนของอาหารทะเลที่มีราคาแพงให้บริโภคอาหารประเภทอื่นแทนไปก่อน

อย่างไรก็ตาม หากไม่ดำเนินการแก้ไขอาจจะเป็นผลกระทบระยะยาว อะไรที่มันผิดก็ต้องหยุดไว้ก่อน สอบสวนดำเนินคดีเรียบร้อยแล้วก็เดินหน้าต่อไปให้ทันเวลา แล้วข้อสำคัญทุกอย่างที่ดำเนินการมาทั้งหมดจะได้ไม่ขัดต่อข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น ปัญหาเรื่องขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เรื่องประมง เรื่อง IUU เรื่องค้ามนุษย์ TIP Report และอีกมากมาย ซึ่งนี้คือปัญหาที่มาจากองค์กรระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ จะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จ

ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปวันนี้อยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ค่อนข้างที่จะต้องการข้อสรุปซึ่งเขียนมาอย่างไร ก็ต้องยอมรับกัน ครม. และ คสช.ไม่ใช่นักการเมือง ไม่หวังผลประโยชน์ ทุกคนทำตามหน้าที่ เพื่อจะทำบ้านเมืองให้ปลอดภัย เกิดความเชื่อมั่น แก้ปัญหาที่สะสมมากว่า 10 ปี เพื่อเป็นประชาธิปไตย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย ถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีน ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 40 ปี และสหรัฐอเมริกาในโอกาสครบรอบวันประกาศเอกราช ซึ่งขอแสดงความยินดีกับประชาชนของทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งเดินทางไปมาหาสู่กัน มีความผูกพัน มีความร่วมมือร่วมใจกันในหลายระดับ ทั้งระดับสถาบัน ระดับรัฐบาล ระดับประชาชน การท่องเที่ยว การค้า วัฒนธรรม ก็ขอให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นนี้ตลอดไป