กกต.ชี้ทุจริตลต.ต้องแก้กม.ให้มีอำนาจดำเนินคดี

'บุญส่ง' เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมเชิงวิชาการเรื่อง 'การดำเนินคดีเลือกตั้งระดับภูมิภาค' ครั้งที่ 3 ชี้ ทุจริตการเลือกตั้ง ต้องแก้กฎหมาย ให้ กกต. มีอำนาจดำเนินคดีเลือกตั้ง พร้อมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดโครงการประชุมเชิงวิชาการ เรื่อง “การดำเนินคดีเลือกตั้งระดับภูมิภาค” (ครั้งที่ 3) ระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย. 2558 ที่ โรงแรมแกรนด์ แปซิฟิก ซอฟเฟอรีน รีสอร์ทแอนด์สปา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยมี นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 4 และ นายสราวุธ  ศิริภาณุรักษ์  ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 7 เป็นผู้บรรยายให้ความรู้  มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย  คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด รองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หัวหน้างานสืบสวนสอบสวน และพนักงานสืบสวนสอบสวน ในเขตพื้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 รวม 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และจังหวัดสุพรรณบุรี และผู้บริหาร พนักงานสืบสวนสอบสวน และนิติกรของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งสิ้นจำนวน 122 คน

 

กกต.ชี้ทุจริตลต.ต้องแก้กม.ให้มีอำนาจดำเนินคดี

นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย (กกต.) กล่าวระหว่างเปิดการประชุมที่ จ.เพชรบุรี ว่า โครงการนี้จะเป็นการพัฒนาระบบงานสืบสวนสอบสวน ให้สามารถป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเพิ่มอำนาจพนักงานสืบสวนสอบสวนในการออกหมายเรียก ค้น จับ และให้ กกต. มีอำนาจในการดำเนินคดีเลือกตั้ง (เพิกถอนสิทธิ์) คดีอาญาและการฟ้องเรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งไปในคราวเดียวกัน โดยฟ้องคดีที่ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อให้การดำเนินคดี มีความรวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับการออกเสียงประชามติในครั้งนี้ กำหนดให้นำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 ในส่วนที่เกี่ยวกับความผิดและบทกำหนดโทษมาใช้บังคับด้วย