ผกก.สน.ประเวศ แจงปมสงสัยคดี แอนนา รีส ขับรถชนตำรวจ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/363/1819391/news06.jpgผกก.สน.ประเวศ แจงปมสงสัยคดี แอนนา รีส ขับรถชนตำรวจ

    ผกก.สน.ประเวศ แจงปมสงสัยคดี แอนนา รีส ขับรถชนตำรวจ

    2015-06-26T17:30:03+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    จากกรณีอื้อฉาวดารานางแบบสาว "แอนนา รีส" ขับรถเก๋งคันหรู พุ่งชนท้ายรถตำรวจที่จอดอยู่ข้างทาง เป็นเหตุทำให้ ร.ต.ท.นภาดล วงษ์บัณฑิต รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสุพรรณบุรี เสียชีวิต ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

    แต่หลังจากที่ข่าวนี้กลายเป็นประเด็นโด่งดัง กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็เกิดขึ้นตามมา มีข้อสงสัยหลายจุดที่สังคมยังแคลงใจ โดยเฉพาะประเด็นที่ไม่ควบคุมตัว "แอนนา รีส" เอาไว้สอบสวน หรือ ไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกฮอล์ทันทีที่เกิดเหตุ ซึ่งดูผิดหลักการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    ล่าสุด พ.ต.อ.เมธา เจียมไกรศรี ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลประเวศ ได้ออกมาชี้แจงประเด็นต่างๆ กับสื่อมวลชน พร้อมกับยอมรับถึงข้อบกพร่องในการปฏิบัตินหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากความขาดแคลนของกำลังเจ้าหน้าที่ในช่วงกลางคืน...

    "การปฏิบัติหน้าที่อาจจะขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่เชื่อว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้จะไปทำอะไรให้เด็ดขาด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามความถูกต้อง และผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งมา โดยเฉพาะกรณีนี้เป็นเหตุที่ตำรวจถึงแก่ความตาย เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ พนักงานสอบสวนเองไม่เอาวิชาชีพหรือศักดิ์ศรีของตำรวจไปขาย"

    "จึงอยากให้สังคมมองตำรวจในแง่ดีบ้าง พนักงานสอบสวนที่นี่มีน้อยมาก และคดีเราก็มีเยอะ ร้อยเวรเข้างานตั้งแต่หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้า คดีที่รับแต่ละคดีเยอะมาก พอไปตรวจที่เกิดเหตุก็ต้องไปคนเดียว อันนี้เป็นความผิดพลาดของตนด้วย ที่มีพนักงานสอบสวนเพียงสองคน เวลามีเหตุซ้ำซ้อนอีกคนต้องออกไป คู่เวรก็ไม่มีเพราะกำลังพลของเราขาดแคลน"

    "ฝากบอกกับสื่อมวลชนด้วยว่า ตำรวจเป็นอาชีพที่บอบช้ำแล้ว คอยบรรเทาผลร้ายให้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่อำนวยความยุติธรรมเป็นไปไม่ได้ เพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งคน"

    "แต่ว่าประเด็นหนึ่งที่ผิดพลาดคือ เราไม่ได้ควบคุม หรือ แจ้งข้อหา โดยทันทีทันใด ระหว่างนั้นที่ร้อยเวรไปที่เกิดอุบัติเหตุกำลังเก็บเอกสาร บัตรประชาชน และประสานทางผู้ขับขี่ว่า อยู่ตรงนี้นะ ขอชันสูตรก่อน และจะมาสอบปากคำ แต่ทางญาติกลัวว่าเขาจะได้รับอันตรายทางร่างกายก็เลยพาไปตรวจร่างกาย มันเป็นขั้นตอนที่ตำรวจทำสุดความสามารถแล้ว"

    "และหลังจากเกิดเหตุได้มีการประสานขอเข้ามามอบตัว คนคิดว่าประเด็นต่างในโลกโซเชียลน่าจะยุติได้แล้ว เพราะอุบัติเหตุมีใครบ้างที่อยากให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียชีวิต ที่อยู่ดีๆ มาจอดรถพักข้างทาง และต้องมาเสียชีวิตอยู่ตรงนั้น"

    "ผู้ขับขี่ก็เช่นเดียวกัน ขับรถเบนซ์มาดีๆ ใครอยากจะให้เกิด และผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจ ไม่มีใครหรอกที่จะเอาศักดิ์ศรี หรือวิชาชีพตำรวจ ไปทำให้คดีไม่มีความตรงไปตรงมา เป็นไปไม่ได้ ตนรับประกันว่าคดีนี้ ตนต้องทำให้ผู้เสียชีวิตได้รับความยุติธรรมอย่างเต็มที่ที่สุด ในส่วนของผู้ต้องหา ต้องได้รับการดำเนินการตามข้อหา และข้อกฎหมายที่เขากระทำ แต่เหตุทุกเหตุเกิดจากความประมาท ไม่มีใครที่อยากให้เกิดตรงนี้"

    "ส่วนประเด็นในเรื่องตรวจสารแอลกอฮอล์ คดีนี้เราไม่ได้ตรวจวัด แต่เราตรวจจากกระแสโลหิต เขาพิสูจน์แล้วว่าตรวจได้ 48 ชั่วโมง อาจจะมีจางหายไปบ้าง ทางผู้ต้องหานั้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจยินดีให้ตรวจ เพราะหากจะตรวจจากกระแสโลหิตหรือหาสารเสพติดต้องได้รับคำยินยอมเสียก่อน เราตกลงว่าจะทำยังไงให้ตำรวจผู้เสียชีวิตได้รับการชดใช้ที่เหมาะสม และครอบครัวไม่เดือดร้อนหลังจากนี้"

    "ในประเด็นของการขับขี่รถโดยประมาทมีอยู่แล้ว ในส่วนของการหลบหนี ไม่แจ้งตัวต่อเจ้าพนักงานเราก็แจ้งด้วย เพื่อเป็นการขจัดข้อสงสัย ข้อกังขาขอสื่อมวลชนและโลกโซเชียล ตอนนี้เท่ากับมี2ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำทรัพย์สินเสียหาย และข้อหาหลบหนี ไม่แสดงตนต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน"

    "หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ก็จะต้องนำตัวไปที่ศาล ต่อไปเป็นหน้าที่ของผู้ต้องหาที่ต้องไปยื่นประกันตัวต่อศาล ทำบันทึกข้อตกลงในการไกล่เกลี่ย และชดใช้ค่าเสียหาย"

    "ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้น ต้องอยู่ที่ดุลพินิจของศาล โดยทั่วไปการขับขี่รถเกิดจากการประมาทอยู่แล้ว ไม่มีใครตั้งใจ ศาลก็ต้องใช้ดุลพินิจในการตัดสิน ผมต้องขอกราบอภัยด้วยหากสน.ประเวศทำอะไรแล้วขาดตกบกพร่อง ยอมรับว่าเคสนี้มีข้อบกพร่องบ้าง แต่บกพร่องโดยสุจริตครับ ต้องขออภัยแทนผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยครับ ถึงปฏิเสธไม่ได้แต่จะทำให้ยุติธรรมที่สุด"