รสนา เชื่อสปช.โหวตผ่านร่างรธน.หากปรับแก้

'รสนา โตสิตระกูล' เชื่อหาก กมธ.ตั้งใจปรับแก้ร่าง รธน. สปช. จะโหวตให้ผ่าน จ่อเสนอถามเรื่องพลังงานประกอบประชามติ ค้านเปิดบ่อนคาสิโนหวั่นแหล่งฟอกเงิน ขณะที่ 'สุจิต' ย้ำ ปรับร่างรธน.ยึดชาติ ปชช. เป็นหลัก

นางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น ถึงการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของทางคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องดูเนื้อหาสาระทั้งหมด ซึ่งคิดว่า หากทางคณะกรรมาธิการยกร่างฯ มีความตั้งใจในการแก้ไขตามคำขอเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญ มีความสมบูรณ์มากที่สุด เชื่อว่าทาง สปช. จะต้องโหวตให้ผ่านมากกว่าการโหวตไม่ผ่าน ส่วนเรื่องของการปฏิรูปพลังงาน นั้น หลังจากนี้จะต้องมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับของกระทรวงพลังงาน และฉบับของภาคประชาชนอีกครั้ง ว่า ต้องการจะให้นำร่างฉบับใดขึ้นมาประกาศใช้ เพราะเรื่องของการปฏิรูปพลังงานนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก

ทั้งนี้ นางสาวรสนา กล่าวถึงคำถามประกอบการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ ทาง สปช. ยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ส่วนตัวจะเสนอให้มีการถามเรื่องเกี่ยวกับพลังงาน และหวังว่าจะไม่มีการเสนอให้ถามถึงเรื่องการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย เพราะประเทศไทยไม่เหมาะสมที่จะเปิดบ่อนคาสิโน หากเปิดจะมีความเสียหายมากกว่าจะได้รับผลประโยชน์ และจะเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มนักการเมือง รวมถึงจะทำให้เกิดธุรกิจผิดกฎหมายง่ายขึ้น 

นอกจากนี้ นางสาว รสนา ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาสนับสนุนการเปิดบ่อนคาสิโน ว่า พล.ต.อ.สมยศ ออกมาพูดสนับสนุนได้อย่างไร คิดว่าเหมาะสมแล้วหรือ และในขณะนี้สังคมกำลังตั้งคำถามว่าที่ออกมาสนับสนุนเรื่องนี้เพื่อที่จะกลบเกลื่อนเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่

สุจิตย้ำปรับร่างรธน.ยึดชาติ ปชช. เป็นหลัก

ศาสตราจารย์ สุจิต บุญบงการ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่สาม เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาปรับแก้ไขร่างรัฐมนตรี ขณะนี้ ประเด็นที่มีการพิจารณาผ่านไปส่วนหนึ่งนั้น ได้มีปรับปรุงให้เหมาะสมแล้ว ซึ่งได้กรอบความคิดเห็นมาพอสมควรในการลงรายมาตรา ส่วนประเด็นที่มีการพิจารณานั้น เป็นในประเด็นหลักๆ ที่มีข้อเสนอแก้ไขเข้ามา เช่น ระบบการเลือกตั้ง จะไม่ใช้แบบระบบโอเพ่นลิสต์ เพราะเป็นการทำให้ประชาชนสับสนและประเด็นที่มีการแก้ไขจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจากเดิม 200 ปรับเหลือเพียง 150 และเพิ่ม ส.ส. เขตเลือกตั้งเป็น 300 ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วนั้น ขณะที่ประเด็นอื่น ๆ มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการสรุปเป็นมติอย่างเป็นทางการ คาดจะสามารถดำเนินการพิจารณาลงรายมาตราตามที่กำหนดไว้ได้ภายใน 2-3 วัน 

ทั้งนี้ ทาง สปช. จะรับหรือไม่รับร่างนั้น ตนเองมองว่าขึ้นอยู่กับ สปช. และทางกรรมาธิการยกร่างจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโดยมีเป้าหมายเพื่อประเทศชาติ ประชาชนและส่วนรวม