รบ.แจงให้เกษตรกรชะลอเพาะปลูก-น้ำน้อย

รบ.แจงให้เกษตรกรชะลอเพาะปลูก-น้ำน้อย

รบ.แจงให้เกษตรกรชะลอเพาะปลูก-น้ำน้อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐบาล แจงกรมชลประทาน แจ้งให้จังหวัดเตรียมพร้อมรับน้ำ ทำความเข้าใจเกษตรกรชะลอเพาะปลูก ยันรัฐบาลมีมาตรการช่วยเกษตรกร หลังประสบภัยแล้ง ด้วยการสร้างอาชีพ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ทำให้ต้องขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอการปลูกพืชเกษตรออกไประยะหนึ่งก่อนว่ารัฐบาลได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้สื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในเขตชลประทานและลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้ชะลอการปลูกพืชโดยเฉพาะข้าวออกไปก่อน และให้เตรียมพร้อมรับน้ำเข้าเต็มพื้นที่ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ เหตุที่ต้องชะลอการเพาะปลูก เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนหลักลดต่ำลงมาก จำเป็นต้องรอรับน้ำฝนให้เพียงพอก่อนปล่อยเข้าสู่ระบบชลประทาน จึงอยากขอให้เกษตรกรอดทนรออีกระยะหนึ่ง อย่าเร่งรีบเพาะปลูก เพราะอาจส่งผลให้พืชผลขาดน้ำ เกิดความเสียหาย รวมทั้งขอความร่วมมืออย่ากดดันเจ้าหน้าที่ให้เร่งระบายน้ำ ในขณะที่น้ำในเขื่อนยังไม่มีความพร้อมเต็มที่ เพราะจะทำให้กระทบแผนการระบายน้ำทั้งระบบซึ่งรวมถึงน้ำสำหรับการอุปโภค บริโภคด้วย

พล.ต.สรรเสริญ ยังระบุว่า ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา รัฐบาลมีมติงดส่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง โดยได้จัดสรรน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง 2,900 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นอย่างดี แต่ก็มีเกษตรกรบางส่วนไม่ปฏิบัติตาม ทำให้เมื่อสิ้นฤดูแล้งมีการใช้น้ำไปถึง 4,113 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 1,213 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำต้นทุนสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ในเขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ส่งผลให้ต้องขอความร่วมมือชะลอการเพาะปลูกออกไปดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เพื่อการสร้างอาชีพ การจ้างงาน การส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อชดเชยการขาดรายได้ ในวงเงิน 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ หากเกษตกรมีปัญหาสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ศูนย์เกษตกรตำบล หรือศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook