ทนายมนัสขอศาลไต่สวนฉุกเฉิน-เอกอุบคดีมีตัวบิ๊กกว่าร่วม

ทนายมนัสขอศาลไต่สวนฉุกเฉิน-เอกอุบคดีมีตัวบิ๊กกว่าร่วม

ทนายมนัสขอศาลไต่สวนฉุกเฉิน-เอกอุบคดีมีตัวบิ๊กกว่าร่วม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทีมทนาย พล.ท.มนัส ขอศาลไต่สวนฉุกเฉิน แต่ต้องรอการไต่สวนอีกครั้ง ทำให้ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่เรือนจำ ขณะที่ 'พล.ต.อ.เอก' อุบคดีมีตัวบิ๊กกว่าร่วม - ปิดอ่าวสกัดโรฮินจาได้ผล

พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ยังไม่ได้รับการประกันตัวจากศาลจังหวัดนาทวี โดยในวันนี้ทางทีมทนายความได้พิมพ์คำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาลจังหวัดนาทวี ในเรื่องอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนตั้งแต่ในขั้นตอนขอหมายศาลในการออกหมายจับและในการจับกุม รวมทั้งการสอบสวนและฟ้องว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ยังไม่มีการยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากต้องรอให้ศาลพิจารณาคำร้องไต่สวนฉุกเฉินก่อนจึงจะยื่นอีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้ขณะนี้ พล.ท.มนัส ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ อ.นาทวี โดยได้อยู่เหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ

ทั้งนี้ ทีมทนายความของ พล.ท.มนัส ได้พิมพ์คำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาลจังหวัดนาทวีในเรื่องอำนาจหน้าที่และขั้นตอนของพนักงานสอบสวนว่า เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจาก คสช. ได้ออกประกาศลงวันที่ 25 พ.ค. 57 ความผิดที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนคำสั่ง หรือประกาศ คสช. ให้นำผู้ทำความผิดขึ้นศาลทหาร ซึ่งทีมทนายของ พล.ท.มนัส กล่าวว่า ถ้า คสช. ยังไม่มีการยกเลิกคำสั่งฉบับดังกล่าว การสั่งฟ้องของตำรวจซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และต้องนำตัว พล.ท.มนัส ส่งฟ้องที่ศาลทหาร

นอกจากนี้ ทีมทนายความของ พล.ท.มนัส เผยว่า ในส่วนของการยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว ในวันนี้ยังไม่ได้ยื่นอุธรณ์เพิ่ม แต่จะยื่นอีกครั้งหลังจากที่ทราบผลของการยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินแล้ว


เอกอุบคดีมนัสมีตัวบิ๊กกว่าร่วม-ปิดอ่าวสกัดโรฮินจาได้ผล

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทาง พงส. รายงานว่า ได้ทำการสอบปากคำ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ที่เป็นผู้ต้องหาการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาหมดแล้ว ก่อนส่งตัวฝากขังจนศาลอนุมัติให้ฝากขังได้ ซึ่งในรายละเอียดของการสอบปากคำนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเฉพาะกรณีที่ว่าจะมีระดับใหญ่กว่า พล.ท.มนัส ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ ซึ่งไม่สามารถตอบได้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะทำการขยายผลต่อไป หากพบว่าใครกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องให้ศาลอนุมัติหมายจับก่อนที่จะเปิดเผยอะไรได้

นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า ในการลงพื้นที่ เพื่อทำการมวลชนสัมพันธ์กับพี่น้องในจังหวัดที่มีการลำเลียงโรฮีนจา ปรากฏว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชนในพื้นที่กว่า 10,000 คนแล้ว ที่ให้ทั้งเบาะแสและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวน ส่วนนโยบายปิดปากอ่าว ถือว่าได้ผลมาก จะเห็นได้ว่าช่วงระยะนี้แทบไม่มีเรือของชาวโรฮีนจา มาลอยลำในน่านน้ำไทยเลย ซึ่งก็จะคงมาตรการนี้อย่างเข้มข้นต่อไป

 

'เอก'เผยคดีมนัสรอสอบเพิ่มโยงนักการเมืองหรือไม่

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการควบคุมตัว พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ว่า การสอบสวนเป็นไปตามข้อเท็จจริง ที่สามารถสืบสวนสอบสวนได้ ซึ่งมีความคืบหน้ามาจากการออกหมายจับในการสอบปากคำพยานและผู้ต้องหาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยยืนยันว่า หลักฐานทั้งหมด ได้มีการนำแสดงต่อศาล เพื่อให้พิจารณาก่อนออกหมายจับ ส่วนจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ขณะนี้มีเพียงตามหมายจับที่ออกไป แต่จะมีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ต้องดูจากการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับว่า ให้สอบสวนและจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใครหรือเกี่ยวข้องกับใคร พร้อมยืนยันว่า ไม่มีแรงกดดันใดๆ ที่จะกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วนทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ รวมถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอีกด้วย


ศาลชี้คดีมนัสพนง.สอบสวนใช้อำนาจชอบด้วยกม.

ความคืบหน้าหลังจากที่ นายพิพัฒน์ เจือละออง และทีมทนายความของ พล.ท.มนัส ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอไต่สวนฉุกเฉิน กรณีการใช้อำอาจในการสืบสวน จับกุม และส่งฟ้องของเจ้าหน้าที่ต่อศาลจังหวัดนาทวี ว่า ขัดกับคำสั่งของ คสช. หรือไม่นั้นล่าสุดศาลจังหวัดนาทวีได้ทำการไต่สวนฉุกเฉินตามการยื่นของทนายความของ พล.ท.มนัส โดยวินิจฉัยว่า ศาลได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การสืบสวนสอบสวน และขอหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ตั้งแต่ต้นอยู่ในอำนาจของศาลนาทวี จึงวินิจฉัยว่า การใช้อำนาจของพนักงานสอบสวนชอบด้วยกฎหมายหลังจากนั้นทีมทนายของ พล.ท.มนัส ได้ทำการยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลจังหวัดนาทวีต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 อีกครั้ง โดยผ่านทางศาลจังหวัดนาทวี ซึ่งคงใช้เวลาประมาณ 7 วัน จึงจะทราบผล



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล