สธ.วาง5มาตรการเตรียมรับมือไวรัสเมอร์ส-โควี

กระทรวงสาธารณสุข วาง 5 มาตรการเตรียมรับมือไวรัสเมอร์ส-โควี พร้อมขอประชาชนเลี่ยงเดินทางไปยังเมืองแดจอน ประเทศกาหลี
น.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลเตรียมรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2012 หรือ เมอร์ส-โควี โดย 1.ให้จัดระบบคัดกรองผู้ป่วยอาการปอดบวมรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งกลับจากประเทศตะวันออกกลาง 2.ตรวจสอบความพร้อมใช้งานของห้องแยกโรคความดันเป็นลบในโรงพยาบาลและสร้างเครือข่ายการส่งต่อผู้ป่วย 3.ติดประกาศในแผนกผู้ป่วยนอก ให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ที่เพิ่งกลับจากประเทศที่มีการระบาดฯ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ 4.ประสานและซักซ้อมการทำงานของทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว 5. ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ที่มีด่านเข้า-ออกประเทศ คัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถป้องกันโรคได้ หรือหากมีผู้ป่วยเข้ามาก็สามารถยับยั้งการแพร่กระจายได้ อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกได้รายงานผู้ป่วยโรคติดเชื้อเมอร์ส-โควี ตั้งแต่ปี 2555-ปัจจุบัน ประมาณ 1,100 คน เสียชีวิต 400 คน และมีแนวโน้มระบาดมายังประเทศแถบเอเชียมากขึ้น ส่วนประเทศไทยก็ถือว่ามีความเสี่ยง เพราะเป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคอาเซียน โดยมาตรการที่สนามบิน ยังคงมีการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอยู่แล้ว จึงสามารถใช้ร่วมกันได้ แต่สิ่งสำคัญคือการตรวจคัดกรองและป้องกันการระบาดในโรงพยาบาลถือว่าเป็นมาตรการที่ดีที่สุด
ส่วนการดูแลผู้จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ อุมเราะห์ ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้กาฬหลังแอ่น ก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ หลังกลับก็มีการติดตามต่อเนื่อง ล่าสุดได้ประสานไปยังสำนักจุฬาราชมนตรี และบริษัททัวร์เพื่อขอรายชื่อ และข้อมูลผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์เร็ว ๆ นี้ด้วย พร้อมประสานไปยังสถานทูตซาอุฯ ไม่ให้ออกวีซ่าให้กับผู้ที่ไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนจากกระทรวง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี ขอให้หลีกเลี่ยงการไปยังเมืองแดจอน อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วย ส่วนที่ไปยังตะวันออกกลางนั้น ห้ามไปที่ฟาร์มเลี้ยงอูฐ ห้ามดื่มน้ำนมอูฐดิบ และขอให้ล้างมือบ่อย ๆ ด้วย