แม่หลวงกุ้ง เปลี่ยนใจ-สู้ต่อ ยังขอเป็น ผู้ใหญ่บ้านสวยที่สุด

แม่หลวงกุ้ง เปลี่ยนใจ-สู้ต่อ ยังขอเป็น ผู้ใหญ่บ้านสวยที่สุด

แม่หลวงกุ้ง เปลี่ยนใจ-สู้ต่อ ยังขอเป็น ผู้ใหญ่บ้านสวยที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่เกิดกรณี "แม่หลวงกุ้ง" น.ส.สุพัตรวี อยู่แพทย์ อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายอำเภอ หลังจากถูกการเมืองกดดัน ปิดฉากการเป็นผู้ใหญ่บ้านที่สวยที่สุดในไทย จนเกิดกระแสให้กำลังใจเป็นอย่างมาก ล่าสุด แม่หลวงกุ้ง ได้ประกาศไม่ขอลาออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้ว พร้อมขอสานต่องานที่ยังค้างไว้ รวมถึงแก้ไขปัญหาในหมู่บ้านจนสำเร็จ

น.ส.สุพัตรวี อยู่แพทย์ หรือ แม่หลวงกุ้ง ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมคณะกรรมการบริหารหมู่บ้านศิริวัฒนา ม.6 ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ชี้แจงเรื่องปัญหาสาธารณูปโภคในหมู่บ้าน โดยเฉพาะปัญหาการจัดการขยะ ปัญหาขาดแคลนยามหมู่บ้าน การจ่ายค่าน้ำปะปาหมู่บ้าน และน้ำอุปโภค-บริโภค ที่มีปัญหามาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา

ซึ่งในช่วงชั่วโมงแรกของการประชุมเต็มไปด้วยการโต้เถียงในปัญหาที่เกิดขึ้น โดย แม่หลวงกุ้ง มีสีหน้าเคร่งเครียด จากการต่อปากต่อคำกันเล็กน้อยกับทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ในเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบสาธารณูปโภคพื้นฐานในหมู่บ้าน ซึ่งจากการชี้แจงของแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลของตนเองและไม่มีการยอมกัน

เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง และผ่านการชี้แจงจากทุกๆ ฝ่ายการประชุมดังกล่าว จึงได้คลายความตึงเครียดลง และได้หาข้อสรุปร่วมกัน โดยในเบื้องต้นการแก้ไขปัญหาในหลายๆ เรื่องของหมู่บ้านดังกล่าว จะมีการตั้งคณะกรรมการอีกหนึ่งชุดควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

รวมถึงที่ประชุมได้เสนอให้ทางทีมผู้ใหญ่บ้านได้ออกหนังสือชี้แจงในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการพัฒนาหมู่บ้าน ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา ที่เกิดจากสาเหตุของการ

ซึ่งหลังจากผ่านการประชุมร่วม 3 ชั่วโมง แม่หลวงกุ้ง ก็ได้เผยว่า จะอยู่ต่อเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะหากตนลาออกตอนนี้ก็จะเหมือนในที่ประชุมว่า ตนอาย ตนทำผิด ทำงานไม่ไหว หนีความผิด ไม่ทำงานอย่างที่เขาว่ากัน ถ้าอย่างนั้นตนจะทำงานต่อไป โดยจำทำงานต่อเพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่ทำมาตลอดมันเพราะอะไร ถ้าคนทำงานแล้วต้องเห็นถึงปัญหา

ตนยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเราทำงาน ไม่ใช่ว่าตนไม่ทำงานเลยแล้วมีปัญหา สำหรับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ถ้ามองว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องของงาน เพราะฉะนั้นงานของตนก็คือการอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง จึงต้องแก้ไขความขัดแย้งต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook