ไขปริศนา..สาเหตุตายแล้วฟื้นเป็นไปได้หรือ??

ไขปริศนา..สาเหตุตายแล้วฟื้นเป็นไปได้หรือ??

ไขปริศนา..สาเหตุตายแล้วฟื้นเป็นไปได้หรือ??
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตายแล้วฟื้นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นแล้วในโลก ไขปริศนาสาเหตุตายแล้วฟื้นเป็นไปได้หรือ??

ตายแล้วฟื้นเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น สร้างความตื่นตะลึงและสับสนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อสภาวะร่างกายหยุดหายใจแล้วอวัยวะภายในยังคงทำงานได้ต่อไปอีกหรือนี่คือคำถามที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์ตายแล้วฟื้นปรากฎให้เห็นในสังคมหลายครั้งด้วยกัน ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2557 คุณยายวัย 95 ปี เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อเวลา เมื่อเวลา 03.20 น. เช้ามืดของวันที่ 21 ตุลาคม ทางญาติได้จัดพิธีศพในช่วงเย็นของวันที่ 22 ต.ค. ซึ่งขณะนั้นญาติได้จับร่างกายของคุณยายปรากฎว่าเนื้อตัวกลับอุ่นขึ้นเหมือนคนนอนหลับ ชีพจรกลับมาเต้นอ่อน ๆ อีกครั้ง ไม่นานคุณยายก็ฟื้นขึ้นมาจากความตายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งญาติ ๆ ได้นำตัวคุณยายส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ญาติ ๆ ได้แจ้งว่าก่อนตายคุณยายได้สั่งเสียว่าหากหมดลมหายใจอย่าฉีดยาศพ

เหตุนี้เองหรือเปล่า? ที่ทำให้คุณยายกลับมามีลมหายใจอีกครั้งแบบที่ร่างกายไม่เป็นอันตราย

อีกหนึ่งเหตุการณ์คือคุณยายชาวโปแลนด์ วัย 91 ปี เสียชีวิตแล้วฟื้นขึ้นมาในห้องดับจิต และกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป ก่อนหน้านั้นทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำร่างไร้ลมหายใจของคุณยายเข้าห้องดับจิตจากนั้นจะนำร่างคุณยายไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาปรากฎว่าแขนขาของคุณยายขยับได้และชีพจรกลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง สร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก พร้อม ๆ กับมีคำถามตามมาว่าเหตุใดคนหมดลมหายใจแล้วและอยู่ในห้องดับจิต จึงฟื้นขึ้นมาได้และร่างกายก็ยังเป็นปกติ 

และล่าสุดการตายแล้วฟื้นเกิดขึ้นกับคุณลุงวัย 56 ปี ที่จังหวัดนครพนม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม คุณลุงมีอาการอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงได้หมดสติ ต่อมาแพทย์แจ้งว่าของคุณลุงอาการไม่สู้ดีนัก ชีพจรเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ ทางญาติจึงตัดสินใจไม่ยื้อชีวิต เซ็นอนุมัติถอดเครื่องออกซิเจนออก ทางด้านภรรยาของไม่ยินยอมให้ฉีดฟอร์มาลีนแก่ร่างสามีเป็นอันขาด

จากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น คุณลุงวัย 56 ปีได้กลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ด้านลูกสาวเปิดเผยว่าคุณลุงคนนี้ร่างกายได้หยุดหายใจไปประมาณ 5 ชั่วโมงหลังแพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจแต่สุดท้ายคุณลุงวัย 56 ปีคนนี้ก็ได้สิ้นลมอย่างสงบ ญาติได้จัดพิธีศพทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ทางการแพทย์ได้มีคำตอบสำหรับกรณีคุณลุงวัย 56 ปีว่า หลังจากที่ผู้ป่วยได้ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว ผู้ป่วยอาจจะไม่ได้สิ้นลมในทันที ภาวะร่างกายอาจจะยังมีลมหายใจอยู่ต่อได้อีกและจะค่อย ๆ ผ่อนไปจนกระทั่งหมดลมหายใจ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีอื่น ๆ ความเป็นไปได้กรณีตายแล้วฟื้น ทางการแพทย์ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า โอกาสของการตายแล้วฟื้นเป็นไปได้ แทบจะศูนย์เปอร์เซ็นต์ เพราะโดยปกติแพทย์จะลงความเห็นว่าผู้ใดเสียชีวิตนั้น ต้องรอเวลาถึง 6 ชั่วโมง และจะมีการตรวจหลายขั้นตอน นอกจากนี้ต้องตรวจด้วยเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจจนมั่นใจว่าคน ๆ นั้นเสียชีวิตแล้วจึงจะลงความเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตจริง

จากหลายเหตุการณ์ที่ปรากฎเป็นข่าว สังเกตได้มักจะเกิดกับคนสูงอายุหรือผู้ป่วยที่อยู่ภาวะวิกฤต ที่โดยทั่วไปมักจะมีชีพจรที่เต้นอ่อนอยู่แล้ว เมื่อร่างกายในสภาวะที่วิกฤตบางทีครอบครัวคิดว่าเสียชีวิตแล้ว หรือในบางรายผู้ป่วยวิกฤตและหมดลมหายใจไป แต่ไม่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อชี้ชัดว่าเป็นการเสียชีวิต จึงเกิดการเข้าใจว่าเป็นการตายแล้วฟื้น (ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากครอบครัวข่าว3)

สรุปการตายแล้วฟื้นในทางการแพทย์ถือว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ในทางความเชื่อของชาวบ้านขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook