สั่งเด้ง ผกก.สน.ประเวศ ปมจ่ายส่วยอาบอบนวดร้านดัง

สั่งเด้ง ผกก.สน.ประเวศ ปมจ่ายส่วยอาบอบนวดร้านดัง

สั่งเด้ง ผกก.สน.ประเวศ ปมจ่ายส่วยอาบอบนวดร้านดัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(3 พ.ย.) จากกรณีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้เข้าตรวจค้นสถานบันเทิง "ไรเดอร์ รีสอร์ท" และ "คุ้มพระราม" บริเวณซอยศรีนครินทร์ 49 ย่านประเวศ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการเปิดให้บริการเกินเวลาและมีลักษณะแฝงประเวณี ตรวจค้นพบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง หญิงสาวบริการทั้งชาวไทยและต่างด้าว อีกทั้งยังพบเอกสารรายจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

นายโสภณ สลักคำ เจ้าของร้านไรเดอร์ รีสอร์ท ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า เปิดบริการร้านแห่งนี้เป็นธุรกิจอาหารและที่พักเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ คุ้มพระราม ซึ่งเป็นสถานบันเทิงที่ให้ผู้อื่นเช่าเปิดกิจการ ขณะที่เอกสารรายจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น นายโสภณ ระบุว่าไม่ทราบมาก่อน และไม่รู้จักเจ้าหน้าที่ในรายชื่อดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เคยจ่ายส่วยใดๆ ให้เจ้าหน้าที่ แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่า ในคืนเกิดเหตุเปิดสถานบริการเกินเวลา เพราะลูกค้าออกจากร้านช้ากว่าปกติ เนื่องจากยังเป็นช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน

ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งย้ายให้ พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ ผู้กำกับ สน.ประเวศ พ.ต.ท.เผด็จ ภู่บุบผากาญจน รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.ประเวศ แลพ พ.ต.ท.บวร เพ็งสุข รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สน.ประเวศ มาปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 30 วัน แล้ว

สำหรับเอกสารรายจ่ายของสถานบันเทิงคุ้มพระราม ที่ระบุว่ามีการจ่ายเงินให้ตำรวจหลายหน่วยงานเป็นรายเดือน ระบุในเอกสารตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท เบื้องต้น ผกก.สน.ประเวศ ชี้แจงว่า เป็นเอกสารเก่าเป็นลักษณะการพิมพ์ออกมา ทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่ อีกทั้งลักษณะขนาดสถานบริการดังกล่าวค่อนข้างขนาดเล็ก ไม่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่จ่ายให้กับตำรวจที่สูงสุดถึงหลักหมื่นบาท

ส่วนรายชื่อตำรวจ 2 นายระดับโรงพักที่มีชื่อในบัญชี พบว่าเป็นอดีตสารวัตรปราบปรามและดาบตำรวจสายงานปราบปราม ขณะนี้ได้ย้ายออกไปดำรงตำแหน่งในกองบังคับการตำรวจทางหลวง เมื่อ 2 ปีก่อน แต่เพื่อให้ได้ความกระจ่าง ทางผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้แล้ว และเตรียมเรียกตำรวจทั้ง 2 นายที่มีรายชื่อมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook