รปภ.สารภาพฆ่า "น้องเนม" หมกท่อ อ้างเมาเกิดอารมณ์

รปภ.สารภาพฆ่า "น้องเนม" หมกท่อ อ้างเมาเกิดอารมณ์

รปภ.สารภาพฆ่า "น้องเนม" หมกท่อ อ้างเมาเกิดอารมณ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(7 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ชาญชาตรี สีดาคำ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บุคคโล เจ้าของคดีคนร้ายสังหารโหด "น้องเนม" อายุ 4 ขวบ ก่อนนำศพใส่ถุงขยะยัดท่อระบายน้ำภายใน ซ.รัชดา-ท่าพระ 5 ย่านบุคคโล พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานพยานแวดล้อมเพิ่มเติม

มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัย คือ นายชาตรี สีดี (ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร) อายุ 24 ปี รปภ.ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใกล้กับที่เกิดเหตุ หลังภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพขณะที่นายชาตรีพาเด็กเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์

ล่าสุด จากการสอบสวน นายชาตรี ให้การรับสารภาพ ว่า ลงมือก่อเหตุฆ่า น้องเนม จริง พร้อมพยายามที่จะใช้กำลังข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 18.30 น. ของวันที่ 3 ก.ย. ขณะที่ตนนั่งดื่มสุราอยู่บริเวณข้างตึกที่เกิดเหตุจนเมา จากนั้น น้องเนม ที่รู้จักคุ้นหน้ากันอยู่แล้วเดินผ่านมา ตนเกิดอารมณ์ทางเพศจึงกวักมือเรียกน้องเนมพาเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปถึงตรงทางเดิน ตนได้พยายามข่มขืนโดยถอดกางเกงแล้วพยายามนำอวัยวะเพศสอดใส่เข้าไป แต่ไม่สำเร็จ เพราะเด็กส่งเสียงร้องและขัดขืนต่อสู้ ตนจึงใช้มือบีบคอจนเด็กแน่นิ่งไป ตนได้ใช้นิ้วมือแตะดูที่จมูก พบว่าเด็กเหมือนหยุดหายใจแล้ว ด้วยความกลัวความผิด จึงนำน้องเนมใส่ในถุงขยะสีดำที่ยังไม่ได้ใช้ โดยนำส่วนบริเวณศีรษะยัดเข้าไปในถุง ก่อนที่จะเดินไปใช้ท่อนเหล็กเปิดฝาท่อโดยใช้ขาขวายันฝาท่อไว้ จากนั้นจึงใช้มือลากถุงดำที่มีร่างน้องเนมอยู่หย่อนลงไปแล้วปิดฝาท่อ หลังจากนั้น ตนได้พยายามทำลายหลักฐาน โดยการนำกางเกงในของน้องเนมและกางเกงที่ตัวเองใส่ ซึ่งเปื้อนดินจากฝาท่อ ไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปากซอยรัชดา-ท่าพระ 5 ก่อนจะหลบหนีไปกบดานย่านสาทร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานพยานแวดล้อมเพิ่มเติม พร้อมกับจำลองเหตุการณ์ และชี้จุด ตามคำให้การของผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้อธิบายขั้นตอนการลงมือ ตามคำให้การของผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนรับทราบ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการจำลองเหตุการณ์ประมาณ 30 นาที ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการจำลองเหตุการณ์อยู่นั้น ได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน ที่ทราบข่าวมาเฝ้ารอดูหน้าผู้ต้องหา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางมาที่เกิดเหตุด้วยเนื่องจากเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์

ด้าน พ.ต.ท.ชาญชาตรี กล่าวว่า ขั้นตอนที่ลงพื้นที่ในวันนี้เป็นเพียงการจำลองเหตุการณ์จากคำให้การของผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด ซึ่งในรายละเอียดของขั้นตอนทั้งหมดที่แน่ชัดต้องรอการแถลงข่าวของผู้บังคัญบัญชา ในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) อีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook