ตร.สาวลึก! เต้ย หอมชง วางแผนข้ามปี ขอเงินพี่ชายจ้างมือปืน

ตร.สาวลึก! เต้ย หอมชง วางแผนข้ามปี ขอเงินพี่ชายจ้างมือปืน

ตร.สาวลึก! เต้ย หอมชง วางแผนข้ามปี ขอเงินพี่ชายจ้างมือปืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้จัดแถลงข่าวจับกุมตัวคนร้ายก่อเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพ ได้แก่ นายฉลาด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี และ นายสุระพงษ์ ชูพันธ์ อายุ 47 ปี 2 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ ส่วน นายกิตตินันท์ หอมชง อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กที่ร่วมกันก่อเหตุ กับ นายศักรินทร์ พันธกุล อายุ 22 ปี เพื่อนชายคนสนิท เจ้าหน้าที่ไม่ได้พามาแถลงข่าวด้วย เนื่องจากความไม่เหมาะเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว

ซึ่งภายหลังจากการแถลงข่าว พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้รุดเข้าตรวจสอบบ้านหลังที่เกิดเหตุ ย่านบางแค อีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มตาม ประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหาที่ได้ยอมรับสารภาพ ซึ่งจากการตรวจสอบพบรอยรองเท้าเพิ่ม 1 รอย สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาที่ระบุว่าไม่ได้เข้าไปก่อนเหตุคนเดียว ทั้งนี้ยังพบดีเอ็นเอบนหมอนที่ผู้ต้องหาใช้เก็บเสียงขณะนี้จ่อยิงเหยื่อ

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากหลักฐานพบว่าใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน สอดคล้องกับคำให้การที่ระบุว่า นายฉลาด เป็นผู้ก่อเหตุยิงเหยื่อเพียงคนเดียว ซึ่งจากการรวบรวมหลักฐานที่มีอยู่ เพียงพอที่จะมัดตัวและดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ยังหลบหนี ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว

ขณะที่แนวทางการสืบสวนยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เคยติดต่อกันและวางแผนร่วมสังหารผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 นายกิตตินันท์ ลูกชายคนเล็กของบ้านที่มีปมน้อยอกน้อยใจครอบครัว เคยติดต่อพูดคุยหามือปืนมาสังหารคนในครอบครัว ได้วางเงินมัดจำจำนวนหนึ่งให้มือปืน ตลอดระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา มือปืนจะติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมเข้าออกของคนในบ้าน จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายกิตตินันท์ ได้ออกปากขอยืมเงินกับพี่ชายที่เสียชีวิต จำนวนประมาณ 60,000 บาท อ้างว่าจะนำไปลงทุนเปิดกิจการฟิตเนสกับเพื่อน ก่อนจะนำเงินที่พี่ชายโอนให้มานั้น จ่ายค่าจ้างที่เหลือเพื่อให้มือปืนมาสังหารคนในครอบครัวดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบเบาะแสหลักฐานลวง ซึ่ง นายกิตตินันท์ พยายามสร้างเอาไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยการไปปรากฏตามสถานที่ต่างๆ พยายามเดินผ่านหน้ากล้องวงจรปิด เพื่อเป็นหลักฐานใช้ป้องกันตัวเอง ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุดังกล่าว อีกทั้งช่วงเวลาเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่บ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook