ปชป.ห่วงคาร์บอมบ์ส่อเค้าแรงแนะนายกฯคุยลต.

ปชป.ห่วงคาร์บอมบ์ส่อเค้าแรงแนะนายกฯคุยลต.

ปชป.ห่วงคาร์บอมบ์ส่อเค้าแรงแนะนายกฯคุยลต.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ห่วงคาร์บอมบ์ส่อเค้ารุนแรง แนะนายกรัฐมนตรี หารือเลือกตั้งทุกฝ่ายยอมรับ ยัน พร้อมลง ขณะ 28 มี.ค.ปชป. ประชุมพรรค

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่พัฒนาไปถึงขั้นการใช้คาร์บอมบ์บริเวณสถานที่ชุมนุมแจ้งวัฒนะ ว่า เป็นการพัฒนาจากอาวุธเบาไปสู่อาวุธหนัก อาวุธสงคราม กระทั่งคาร์บอมบ์ โดยความรุนแรงล้วนแต่มุ่งประสงค์ต่อผู้ที่ดำเนินการให้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. คปท. และกลุ่มอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีการกระทำความรุนแรงกับองค์กรศาลและองค์กรอิสระ ที่กำลังพิจารณาคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะระบุไม่ได้ว่าเกิดจากการกระทำของฝ่ายใด จึงเชื่อว่า ความรุนแรงจะพัฒนามากขึ้น แต่กลับไม่มีความเอาจริงเอาจังจากรัฐบาลในการหาคนผิดมาลงโทษ ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ไม่ควรปล่อยปละละเลยให้เกิดความรุนแรง เร่งดำเนินการอย่างจริงจังด้วย

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกิจกรรมทางการเมืองของพรรค ว่า ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมเพื่อเปิดแนวนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศของพรรค และวันที่ 29 มี.ค. จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ซึ่งในส่วนของพรรคการเมืองก็มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่การเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายด้วย

 

ส่วนกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดว่า การเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 เป็นโมฆะนั้น ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยทุกฝ่ายในสังคมอยากเห็นการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ล้มเหลวเป็นโมฆะ ดังนั้น สามารถก่อให้เกิดผลในการแก้วิกฤติประเทศได้ คือ ควรมีกระบวนการพูดคุยจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้การเลือกตั้งสำเร็จลุล่วงได้ดังเป้าหมายที่ทุกคนปรารถนา โดยรูปแบบและวิธีการที่สำคัญ คือ รัฐบาล และ กกต. ต้องคุยกันก่อนเพื่อร่วมกันตัดสินใจให้กระบวนการพูดคุย เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายสามารถเกิดขึ้นได้ และการพูดคุยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ การคุยกันระหว่างนายกรัฐมนตรี กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ผู้ชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง เพราะต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เชื่อว่า การพูดคุยดังกล่าว จะทำให้มีโอกาสในการหาจุดร่วมกันมากขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ต้องเสียสละอำนาจบางส่วนให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่ยึดอำนาจไว้กับตัวเอง ในขณะที่ปัญหาบ้านเมืองเพิ่มมากขึ้น จะไม่สามารถนำชาติเข้าสู่ภาวะปกติได้


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook