ป.ป.ช.ปัด7องค์กรคิดล้มรบ.หานายกม.7หวังปท.สงบ

กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติปัด7องค์กรคิดล้มรัฐหานายกฯมาตรา7หวังประเทศสงบ เรียกร้องฝ่ายการเมืองอย่างใช้ความรู้สึกต่อองค์กรยุติธรรม ด้าน'เฉลิม'เมิน7องค์กรถกทางออกปท.ชี้ไม่ใช่หน้าที่

นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ปปช. เป็น 1 ใน 7 องค์กรอิสระ ของการประชุมร่วมหาทางออกประเทศ ว่า การหารือดังกล่าว ยืนยันว่า 7 องค์กรอิสระ ไม่มีความเห็นที่ต้องการนายกรัฐมนตรีคนกลาง ตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด และไม่ได้ต้องการล้มรัฐบาลรักษาการในปัจจุบัน ตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต แต่ถือเป็นเพียงการใช้สิทธิ์ในฐานะคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อยากเห็นประเทศชาติบ้านเมืองสงบสุขเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งการออกมาตั้งข้อสังเกตดังกล่าวของฝ่ายการเมืองนั้น ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมือง อย่าใช้ความรู้สึกทางการเมืองต่อองค์กรยุติธรรม โดยยืนยันว่า องค์กรอิสระ มีความเป็นกลางทำหน้าที่ด้วยความสุจริตตามกฏหมายและไม่ได้เอียงข้างเพื่อผลประโยชน์หรือเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

อย่างไรก็ตาม แนวทางกระบวนการในการเสนอเป็นตัวกลางเจรจาลดความขัดแย้ง เพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศครั้งนี้ ต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

 

ปชป.จี้ทุกฝ่ายฟัง 7 องค์กรแก้วิกฤติการเมือง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณี 7 องค์กรกลางตามรัฐธรรมนูญ จะมีการนำเสนอจุดยืนของการแก้วิกฤติการเมืองไทยในวันพรุ่งนี้ มองว่า เป็นข้อเสนอที่ให้ทุกฝ่ายทางการเมืองร่วมกันหาทางออก ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ขณะเดียวกัน มีบางกลุ่มออกมาแสดงความไม่ยอมรับ ทั้งที่ขณะนี้ ยังไม่มีใครได้รับทราบถึงเนื้อหาสาระ ดังนั้น จึงเรียกร้องทุกพรรคการเมือง ว่า ควรที่จะรับฟังข้อเสนอของ 7 องค์กรกลางที่จะมีขึ้น ส่วนจะยอมรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล แต่หากทุกฝ่าย ยอมรับฟัง เป็นเรื่องดี

 

พท. ชี้ 7 องค์กรอิสระร่วมหาทางออก ส่อขอนายกฯ ม.7

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี 7 องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ จะแถลงข่าวร่วมกันในวันพรุ่งนี้ว่า เป็นความพยายามของทุกฝ่าย ที่อยากเห็นประเทศเกิดความสงบ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ยินดีที่จะรับฟัง หากเป็นประโยชน์ของประเทศ ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ 7 องค์กรออกมาเคลื่อนไหวเสนอตัวเป็นคนกลาง เจรจายุติความขัดแย้งขณะนี้นั้น มีเงื่อนไขการเสนอขอมีนายกรัฐมนตรีพระราชทานตามมาตรา 7 หรือไม่ ซึ่ง พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ผู้ที่เสนอแผน โดยเฉพาะ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ออกมาชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนว่า ได้มีเงื่อนไขดังกล่าวด้วยหรือไม่

 

'สมชัย'ฉะคนค้าน7องค์กรย้ำหาทางออกให้ปท.

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ในฐานะ 1 ใน 7 องค์กรอิสระ
กล่าวถึงการที่มีบางฝ่ายออกมาคัดค้านการรวมตัวของ 7 องค์กรอิสระ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ โดยระบุ
ว่า การที่บางฝ่ายออกมาระบุว่า การหาทางออกครั้งนี้ ไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระนั้น ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่
มีหน้าที่ของใคร และแม้ว่ารัฐธรรมนูญ ไม่มีมาตราใด ที่ระบุว่า หากมีความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน แล้ว
จะต้องมีคนกลางขึ้นมา เพราะฉะนั้น จึงไม่มีอะไรบอกว่าเป็นหน้าที่ของใคร แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการที่ทุกฝ่าย
ยังอยากจะเห็นปัญหาบ้านเมืองขัดแย้ง และอยู่ในบรรยากาศเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่อยากเห็น แล้วใคร
บ้างสามารถที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ จึงไม่ควรเข้ามาพูดว่า ไม่ใช่หน้าที่ เพราะดูเหมือนไม่ใช่คนไทยที่
รักประเทศ

รศ.สมชัย ระบุอีกว่า ใครก็ตามที่เป็นคนไทย และอยากเห็นประเทศเดินหน้าไปได้ หากทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ ก็ต้องลงมาช่วยทำ เริ่มทำ ก็ไม่ได้แปลว่าจะสำเร็จ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยกเว้นคนที่ไม่อยากให้เรื่องนี้จบด้วยการเจรจา ซึ่งต้องไปคิดว่า จะจบด้วยวิธีการอะไร

 

'เฉลิม' เมิน 7องค์กรถกทางออกปท.ไม่ใช่หน้าที่

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่ 7องค์กรอิสระ เตรียมแถลงเป็นตัวกลาง
และเสนอโรดแมพทางออกของประเทศวันพรุ่งนี้ ว่า อาจมีเจตนาที่ดีแต่ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่หน้าที่ เพราะบางองค์กรไม่มีความน่าเชื่อถือ และหากพรุ่งนี้มีการเสนอเรื่องนายกคนกลาง หรือ นายกฯ มาตรา 7 จะสร้างความไม่พอใจแก่สังคมอย่างแน่นอน และส่วนตัวคงยอมไม่ได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ทางออกของประเทศ คือต้องมีการเดินหน้าจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ แล้วมีรัฐบาลระยะสั้นมาทำการปฏิรูป

พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เชื่อว่า สถานการณ์การเมืองในช่วงเดือนเมษายนนี้ จะมีความร้อนแรงขึ้น แต่ส่วนตัวไม่อยากให้มีการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย และไม่ขอแสดงความเห็น กรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. มีการเปลี่ยนตัวประธานเป็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส่วนกรณีที่จะมีการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมการชุมนุมนั้น ยังไม่แน่ใจว่าจะควบคุมการชุมนุมได้หรือไม่ ต้องรอว่าทางรัฐบาลจะตั้งใครขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมดูแล

 

'สมชัย'เผยพบหลวงปู่แจ้งความคืบหน้าเจรจา

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้เปิดเผยถึงการเข้าพบ หลวงปู่
พุทธะอิสระ แกนนำ กลุ่ม กปปส. ที่มาจัดเวทีเสวนาเกี่ยวกับพลังงานไทย ภายในอาคารศูนย์ราชการ ในวันนี้ว่า การเข้าพบดังกล่าว เป็นเข้าพบโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งใช้เวลาพูดคุยด้วยกันประมาณ 15 นาที และประเด็นที่ไปพูดคุยครั้งนี้ คือการรายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าในการเจรจา และการที่องค์กรอิสระ 6 องค์กร จากเดิม 7 องค์กร นัดหมายแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นกรอบการเจรจา 4 ประเด็น และโรดแมป 6 ขั้นตอน เพื่อไปสู่ความสำเร็จ ในการเจรจาที่จะมีขึ้น ในวันจันทร์นี้ เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

พร้อมเปิดเผยว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้รับปากที่จะช่วยในการสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จในการเจรจา และจะ
ช่วยในการสื่อสารถึงเวทีการชุมนุมต่าง ๆ เพื่อหาทางออกของบ้านเมือง ตามข้อเสนอของ 6 องค์กรอิสระต่อไป

สำหรับกรอบการเจรจา 4 ประเด็น นั้น รศ.สมชัย เชื่อว่า หากคู่กรณีของความขัดแย้ง สามารถเห็นพ้องกันได้ใน
4 ประเด็นดังกล่าว น่าจะทำให้ความขัดแย้งที่มีอยู่ยาวนานกว่า 7 เดือนนี้ ยุติลงได้ โดยจะนำเสนอรายละเอียดในวันพรุ่งนี้