"หมอก้อง" จวก "จารุพงศ์" ขึ้นเวทีแดง ขยะแผ่นดิน!

"หมอก้อง" ร้อยเอกนายแพทย์ สรวิชญ์ สุบุญ โพสต์ข้อบนอินสตาแกรมส่วนตัว จวกยับ "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" หัวหน้าพรรค พท. และปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังเตรียมเรียกตรวจสอบเอาผิดกำนันและผู้ใหญ่ที่แต่งเครื่องแบบขึ้นเวทีชุมนุม

โดยข้อความที่หมอก้องโพสต์มีอยู่ว่า "การจะเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน.. นอกจากต้องมีความสามารถในงานที่รับมอบหมายแล้ว ยังต้องเป็นผู้มีคุณธรรม.. วันนี้คุณประกาศจะสอบสวนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ขึ้นเวที กปปส. ตัวคุณเองเคยคิดสำรวจตรวจสอบบ้างมั๊ยว่าคุณที่เป็นหัวหน้าเค้า ได้เคยขึ้นอีกเวทีหนึ่ง เวทีซึ่งมี ไอ้ตั้ง ผู้ที่มีหมายจับข้อหาหนักติดตัวอยู่เหมือนกัน ..กลับกัน คุณควรไปใส่ใจ "ตามจับ" ไอ้คนนี้ก่อนใช่มั๊ยครับ.. อย่าทำให้ผมรู้สึกไปเองเลย ว่าคุณเป็นพวกเดียวกัน ..เป็นขี้ข้าทรราชย์..เป็นขยะของแผ่นดิน"

ขณะที่วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมดูแลประชาชนทุกคนในช่วงที่มีการชุมนุม ในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งอยากเห็นการชุมนุมเป็นไปโดยสงบ สันติ เพื่อไม่ให้กระทบภาคส่วนต่าง ๆ โดยส่วนตัวจะอยู่ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง 

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งหน้าให้มีการเลือกตั้ง โดยไม่สนใจฟังเสียงประชาชน แต่การเลือกตั้งเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตย และเพื่อให้นำไปสู่การปฏิรูปให้เร็วที่สุด แต่จากระยะเวลาและการหาคนกลางเข้ามารวบรวมความคิดเห็นนั้น ไม่สามารถจัดตั้งได้ทันเวลาก่อนการเลือกตั้ง จึงเห็นว่าขอให้ช่วยกันให้ผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ไปก่อน เมื่อได้รัฐบาลชุดใหม่ เปิดสภาได้แล้วค่อยตั้งสภาปฏิรูปประเทศ เพื่อร่างกฎกติกาที่มาจากการพูดคุยได้ข้อสรุปจากทุกฝ่ายแล้ว จากนั้นจึงจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่ากระแสข่าวการปฏิวัติของกองทัพนั้น ทหารจะรักษาประชาธิปไตย รักษากติกา และทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทั้งนี้ ยินดี หากกองทัพหรือหน่วยงานใด จะเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจาพุดคุยกับกลุ่ม กปปส. ขอให้เกิดการพุดคุย จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหา

โดยปฏิเสธตอบคำถามว่ารัฐบาลจะรับได้หรือไม่ การจะก้าวข้ามต้นเหตุของความขัดแย้งคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการปฏิรูป รวมถึงข่าวว่าอดีตนายกรัฐมนตรี เจรจาต่อรองให้มีการปฏิวัติ เพื่อล้างไพ่ทางการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขออย่าถามตนเลย แต่ให้ถามความเห็นประชาชนจะดีกว่า เพราะตนไม่สามารถรับปากแทนใครได้ และไม่มีใครมีอำนาจเท่ากับประชาชน