กกต.ย้ำสส.28เขตชงศาลฎีกา-จารุพงศ์ยันพท.มุ่งหน้าลต.

กกต.ย้ำสส.28เขตชงศาลฎีกา-จารุพงศ์ยันพท.มุ่งหน้าลต.

กกต.ย้ำสส.28เขตชงศาลฎีกา-จารุพงศ์ยันพท.มุ่งหน้าลต.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เลขาธิการ กกต.เผย ทำตามคำสั่งศาลฎีกา รักษาสิทธิ์ผู้สมัคร ขณะ 28 เขตเลือกตั้งใน 6 จังหวัดภาคใต้ ต้องได้รับการแก้ไข 'จารุพงศ์' ย้ำ เดินหน้าเลือกตั้ง ด้าน 'พร้อมพงศ์' นำ29 ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.พท. ร้องศาลปค.สูงสุด ขอคุ้มครองสิทธิ์

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หากศาลฎีกามีคำสั่งอย่างไร ทาง กกต. ต้องทำตามนั้น เพื่อช่วยรักษาสิทธิ์ของผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส่วนศาลปกครอง หากมีคำสั่งให้ขยายเวลาการเลือกตั้งออกไป เชื่อว่า จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน แต่คำสั่งของศาล ทุกหน่วยงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งในส่วนของบางเขตที่มีการรับสมัครไว้เรียบร้อยแล้วทาง กกต. จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือดำเนินการอย่างเรียบร้อยในทุกจังหวัด แต่ส่วนที่ต้องแก้ไขปัญหาคือ 28 เขตเลือกตั้งใน 6 จังหวัดภาคใต้

ทั้งนี้ กรณีที่นักกฎหมายของพรรคเพื่อไทย บอกว่าทาง กกต. แจ้งว่าต้องไปร้องเรียนที่ศาลฎีกานั้น นายภุชงค์ กล่าวว่า ต้องเทียบเคียงกับมาตรา 39 คือ ภายใน 7 วัน คือเมื่อผู้สมัครไม่มีชื่อในการประกาศต้องไปร้องเรียนกับศาลฎีกา โดยใช้มาตรา 39 กับ มาตรา 219 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่มีมาตั้งแต่การเลือกตั้ง ส.ว. ปี 43 และการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 44 จนถึงปัจจุบัน หากร้องเรียนกับศาลฎีกา ศาลจะรักษาสิทธิ์ของผู้สมัครลงเลือกตั้งไว้ได้

 

'จารุพงศ์'ยันพท.มุ่งหน้าลต.ชี้หากปฏิวัติทำปท.ล้าหลัง

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หากมีการปฏิวัติจากทหาร ก็จะทำให้ประเทศล้าหลัง นานาชาติต่อต้านเผด็จการ เพราะการปฏิวัติทั้ง 18 ครั้ง ที่ผ่านมา ไม่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น มีแต่ถดถอย ส่วนการที่กลุ่ม นปช. ออกมานัดชุมนุมใหญ่ถือเป็นสิทธิ์รักษาประชาธิปไตย ที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏฺวัติ ซึ่งไม่ใช่แค่คนเสื้อแดง พร้อมมองว่าจะกลับไปสู่วังวลเดิมช่วงการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 เพียงแต่เปลี่ยนแกนนำ ดังนั้น ทำอะไรขอให้คำนึงถึงประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ การประกาศปิดกรุงเทพมหานคร 13 มกราคม นี้ อยู่ที่คนกรุงจะยอมให้กับ กปปส. หรือไม่ เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรง

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย ยังคงเดินหน้าปราศรัยหาเสียงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ขณะเดียวกัน มั่นใจว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าได้คืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว ใครจะปล้นไปไม่ได้

 

'พงศ์เทพ'เตือนปชช.ร่วมม็อบต้องคิดรอบคอบ

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากการประเมินสถานการณ์ม็อบ กปปส. ที่จะชุมนุมใหญ่เพื่อชัตดาวน์ประเทศ ในวันที่ 13 มกราคม 2557 นั้น ก็เชื่อว่ากลุ่มดังกล่าวจะดำเนินการอะไรบางอย่างที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพประชาชนในกรุงเทพมหานคร และกระทบต่อเศรษฐกิจ จึงขอเตือน กปปส. ให้คำนึงถึงบุคคลอื่นและความเดือดร้อนของประชาชนด้วย ส่วนคนที่เข้าร่วมม็อบ ก็ขอให้คิดอย่างรอบคอบ เพราะมีผลกระทบหลายทาง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการรองรับไว้แล้ว ส่วนการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เป็นหน้าที่ของหน่วยความมั่นคง

ทั้งนี้ ในส่วนของการปฏิรูปนั้น รัฐบาลได้พยายามอำนวยความสะดวกมาโดยตลอด และพยายามเป็นกลางที่สุดเพื่อช่วยวางกติกา จึงขอยืนยันว่า การปฏิรูปต้องทำหลังการเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ประเทศแข็งแรงขึ้น และยังเป็นการระดมความคิดเห็นจากทุกพรรคการเมืองด้วย

 

ศาลปค.ยันคดีลต.สส.ต้องร้องศาลฎีกาชี้ขาด

นายไพโรจน์ มินเด็น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลางและโฆษกศาลปกครองสูงสุด เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หากพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีให้คุ้มครองชั่วคราว ส.ส. 28 เขตของพรรค ที่ไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้นั้น กระบวนการพิจารณาของศาล จะต้องดูก่อนว่าคำร้องที่ยื่นเข้ามา เป็นการฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ขณะเดียวกัน ศาลเองจะต้องพิจารณาว่ามีอำนาจพิจารณาหรือไม่เช่นเดียวกัน ส่วนกรอบระยะเวลาในการพิจารณาจะช้าหรือเร็ว คงต้องขึ้นอยู่กับคำฟ้องที่ร้องมา 

นอกจากนี้ โฆษกศาลปกครองสูงสุด ระบุด้วยว่า หากมีผู้ยื่นฟ้อง กกต. ผิดฐานละเว้นหน้าที่ ศาลจะต้องพิจารณาว่า สามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะ กกต. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ของ กกต. สามารถใช้อำนาจออกกฎระเบียบต่างๆ ได้ตามกฎหมาย

 

พท.ยื่นศาลปค.ขอคุ้มครองสิทธิ์ลงลต.29คน

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้นำสมาชิกพรรค 29 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต ใน 29 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้ พร้อมทีมทนายความ มายื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กกต. รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ใน 29 เขตเลือกตั้ง ที่ยังรับสมัครไม่ได้ โดยให้พิจารณาสถานที่รับสมัครที่มีความเหมาะสม และมีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งมีคำสั่งให้สมาชิกพรรคทั้ง 29 คน ที่ได้ไปยื่นความจำนงในการลงสมัครโดยแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ในวันที่มีการเปิดรับสมัครให้ได้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งโดยถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังขอให้วินิจฉัยด้วยว่า การที่ กกต. ไม่สามารถดำเนินการให้มีการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่ภาคใต้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนทำให้สมาชิกพรรคทั้ง 29 คน ไม่สามารถเข้าไปสมัครได้นั้น เป็นการละเลยต่อหน้าที่ ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยมาตรา 9(1)(2) ของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองหรือไม่ และระหว่างการพิจารณาคดี ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ทั้งนี้ยังมีสมาชิกของพรรคคนขอปลดหนี้ มายื่นร้องในประเด็นเดียวกันอีกด้วย

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook